การประชุมวิชาการและผลงานวิจัย มหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 17 2550 - page 534

4
เอนไซม
ไดเพปติ
ดิ
ลเพปติ
เดส โฟว
หรื
อ ดี
พี
พี
โฟว
(dipeptidyl peptidase IV, DPP IV) เป
นเอนไซม
ที่
พบว
ามี
ความสั
มพั
นธ
กั
บการทํ
าลายอวั
ยวะปริ
ทั
นต
โดยพบว
า ดี
พี
พี
โฟว
จะทํ
าลายคอลลาเจน ชนิ
ดที่
1 (collagen type I)
(Gossrau, 1979) ซึ่
งเป
นส
วนประกอบที่
สํ
าคั
ญในเอ็
นยึ
ดปริ
ทั
นต
(periodontal ligament) ร
วมกั
บเอนไซม
อื่
นๆที่
ผลิ
จากเซลล
ในร
างกายและจากสิ่
งมี
ชี
วิ
ตอื่
นๆที่
อยู
ในช
องปาก (Elgun et al., 2000) ส
วนเอเอพี
เป
นเอนไซม
ที่
บ
งชี้
ว
ามี
แพร
กระจายของโรคเนื้
องอก (tumor invasion) และมี
การทํ
าลายของคอลลาเจน ชนิ
ดที่
4 ด
วย (collagen type IV)
(Yoneda et al., 1992) อย
างไรก็
ตามมี
การศึ
กษาเกี่
ยวกั
บการตรวจหาเอนไซม
ชนิ
ดนี้
ในน้ํ
าลายน
อยมาก โดยเอนไซม
ทั้
ง 2 ชนิ
ดนี้
อาจจะเกี่
ยวข
องกั
บการทํ
าลายอวั
ยวะปริ
ทั
นต
และอาจสามารถนํ
ามาใช
เป
นตั
วบ
งชี้
ในการวิ
นิ
จฉั
ยและ
บอกระยะโรคปริ
ทั
นต
อั
กเสบที่
ยั
งไม
สงบได
(Elgun et al., 2000)
วั
ตถุ
ประสงค
ในการศึ
กษานี้
เพื่
อ แอคติ
วิ
ตี้
จํ
าเพาะของเอเอพี
และดี
พี
พี
โฟว
ในน้ํ
าลายของคนไทยกลุ
มหนึ่
งที่
มี
สภาพปริ
ทั
นต
ที่
แตกต
างกั
นเพื่
อตรวจหาความสั
มพั
นธ
ระหว
างแอคติ
วิ
ตี้
จํ
าเพาะของเอเอพี
เอนไซม
ดี
พี
พี
โฟว
กั
ค
าการตรวจวั
ดทางคลิ
นิ
กได
แก
ค
าของร
องลึ
กปริ
ทั
นต
(pocket depth) ค
าระดั
บการยึ
ดเกาะของเนื้
อเยื่
อปริ
ทั
นต
(clinical attachment level) และดั
ชนี
การมี
เลื
อดออกของเหงื
อก (gingival bleeding index)
อุ
ปกรณ
และวิ
ธี
การ
การคั
ดเลื
อกกลุ
มตั
วอย
าง
การศึ
กษานี้
เป
นการศึ
กษาในผู
ป
วยโรคปริ
ทั
นต
อั
กเสบเรื้
อรั
งเฉพาะที่
และทั่
วไปทั้
งปาก และผู
ที่
มี
สภาพปริ
ทั
นต
ปกติ
จํ
านวน 90 คน อายุ
ตั้
งแต
20 ป
ขึ้
นไปโดยอาสาสมั
ครต
องไม
มี
โรคประจํ
าตั
ว ไม
ได
รั
บยาปฏิ
ชี
วนะและหรื
อยา
ต
านการอั
กเสบในช
วง 3 เดื
อนที่
ผ
านมา และไม
สู
บบุ
หรี่
จากนั้
นทํ
าการแบ
งกลุ
มการศึ
กษาเป
น 3 กลุ
ม ดั
งนี้
กลุ
มที่
1
คื
อกลุ
มควบคุ
มเป
นผู
ที่
มี
สภาพปริ
ทั
นต
ปกติ
มี
ร
องลึ
กปริ
ทั
นต
น
อยกว
าหรื
อเท
ากั
บ 3 มิ
ลลิ
เมตร ไม
มี
การสู
ญเสี
ยการยึ
เกาะของอวั
ยวะปริ
ทั
นต
มากกว
า 1 มิ
ลลิ
เมตร และไม
มี
ดั
ชนี
การมี
เลื
อดออกของเหงื
อกเกิ
นร
อยละ 20 จํ
านวน 30 คน
กลุ
มที่
2 คื
อผู
ป
วยโรคปริ
ทั
นต
อั
กเสบเรื้
อรั
งแบบเฉพาะที่
มี
ร
องลึ
กปริ
ทั
นต
ที่
ลึ
กตั้
งแต
5 มิ
ลลิ
เมตร ร
อยละ 10-30 ของ
ตํ
าแหน
งที่
ตรวจและมี
การสู
ญเสี
ยการยึ
ดเกาะของอวั
ยวะปริ
ทั
นต
ตั้
งแต
3 มิ
ลลิ
เมตร จํ
านวน 30 คน และกลุ
มที่
3 คื
เป
นผู
ป
วยโรคปริ
ทั
นต
อั
กเสบเรื้
อรั
งแบบทั่
วไป มี
ร
องลึ
กปริ
ทั
นต
ที่
ลึ
กตั้
งแต
5 มิ
ลลิ
เมตร ตั้
งแต
ร
อยละ 50 ของ
ตํ
าแหน
งที่
ตรวจ และมี
การสู
ญเสี
ยการยึ
ดเกาะของอวั
ยวะปริ
ทั
นต
ตั้
งแต
3 มิ
ลลิ
เมตร จํ
านวน 30 คน งานวิ
จั
ยนี้
ผ
าน
การรั
บรองจากคณะกรรมการจริ
ยธรรมการวิ
จั
ยในมนุ
ษย
มหาวิ
ทยาลั
ยขอนแก
นและอาสาสมั
ครทุ
กคนได
รั
บข
อมู
เกี่
ยวกั
บการเข
าร
วมทํ
าการศึ
กษาในครั้
งนี้
และเซ็
นต
ใบยิ
นยอมเข
ารั
บการศึ
กษาด
วยความสมั
ครใจ
การเก็
บน้ํ
าลาย
อาสาสมั
ครทุ
กคนจะถู
กทํ
าการเก็
บน้ํ
าลายในเวลาช
วงเช
าเวลา 10.00-12.00 น. โดยให
อาสาสมั
ครทุ
กคน
บ
วนปากด
วยน้ํ
า กลั้
วปากและคอเป
นเวลา 5 วิ
นาที
แล
วบ
วนทิ้
ง 1 ครั้
ง จากนั้
นทํ
าการเก็
บน้ํ
าลายแบบกระตุ
น โดย
การเคี้
ยวขึ้
ผึ้
งพาราฟ
น (ที่
ผ
านการทํ
าให
ปราศจากเชื้
อแล
ว ขนาดมาตรฐาน) จั
บเวลาตั้
งแต
เริ่
มเคี้
ยวจนกระทั่
งเก็
น้ํ
าลายจากอาสาสมั
ครแต
ละคนได
10 มิ
ลลิ
ลิ
ตร แล
วให
อาสาสมั
ครบ
วนน้ํ
าลายและขี้
ผึ้
งลงในบี
กเกอร
ที่
ปราศจากเชื้
แล
วนํ
าน้ํ
าลายที่
ได
ไปป
นเหวี่
ยงเป
นเวลา 15 นาที
ที่
15,000 รอบต
อนาที
ที่
4 องศาเซลเซี
ยส จากนั้
นนํ
าน้ํ
าลายที่
ได
ไปเก็
บที่
อุ
ณหภู
มิ
-20 องศาเซลเซี
ยส จนกว
าจะนํ
ามาทดสอบ
1...,524,525,526,527,528,529,530,531,532,533 535,536,537,538,539,540,541,542,543,544,...702
Powered by FlippingBook