การประชุมวิชาการและผลงานวิจัย มหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 17 2550 - page 536

6
0
2
4
6
8
10
12
ภาพที่ 1 แสดงจํานวนอาสาสมั ครที่มีเลือดปนออกมากับน้ําลายในขณะที่เก็บขอมูล
จากการเก็บน้ําลายพบวามีอาสาสมัครบางรายมีการปนเปอนของเลือดในน้ําลายที่ เก็บแบบกระตุนการไหล
ของน้ําลายดวย ดังภาพที่ 1 ซึ่งพบวาอาสาสมัครในกลุมที่ 3 มีการปนเปอนของเลือดในน้ําลายมากกว ากลุมที่ 2 และ
กลุมที่ 1 ตามลําดับโดยเมื่อทดสอบโดยใช สถิติ Kruskal-Wallis test ไดคา p<0.001 ซึ่งแสดงวามีความแตกต างกัน
อย างมีนัยสําคัญทางสถิติ
ในการเปรียบเที ยบแอคติวิตี้จําเพาะของ เอเอพีและดีพี พี โฟว ของกลุมผูที่ มีสภาพปริทั นตที่ แตกตางกั น
พบวาแอคติ วิตี้จําเพาะของ เอเอพี และ ดี พีพี โฟว ของอาสาสมัครทั้งหมด มี การกระจายตัวแบบไมปกติ (p<0.001)
ดังนั้นจึงใชคามัธยฐาน(พิสัยควอไทล ) เปนตัวแทนบอกคากลางของแอคติวิตี้จําเพาะของ เอเอพี และ ดีพี พี โฟว ดัง
ตารางที่ 2 โดยพบวาแอคติวิตี้จํ าเพาะของ เอเอพี ทั้ ง 3 กลุม เมื่อทดสอบโดยใช สถิติ Kruskal-Wallis test ไดคา
p=0.57 แสดงวาทั้ง 3 กลุมมีความแตกตางกันอยางไมมีนั ยสําคัญทางสถิติ ส วนแอคติวิตี้จําเพาะของดีพี พี โฟว ในทั้ ง
3 กลุ ม พบวาแอคติวิตี้จํ าเพาะของดีพี พี โฟว ในกลุ มที่ 2 มีคามากกวาทุกกลุ ม เมื่อทดสอบโดยใชสถิติ Kruskal-
Wallis test ไดคา p=0.001 ซึ่งแสดงวามีความแตกตางกั นอยางนอย 2 กลุ ม จากนั้นทําการเปรียบเที ยบคากลาง
ระหวางกลุมโดยใชสถิติ Mann-Whitney-U test พบวา แอคติวิตี้จําเพาะของ ดีพีพี โฟว ในกลุมที่ 2 และ 3 มีคาสู ง
กว ากลุมที่ 1 อยางมี นัยสําคัญทางสถิติ ที่ p=0.001
จํานวน (คน)
กลุมที่ 1 กลุมที่ 2 กลุมที่ 3