การประชุมวิชาการและผลงานวิจัย มหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 17 2550 - page 537

7
ตารางที่
2 แสดงแอคติ
วิ
ตี้
จํ
าเพาะของเอเอพี
และ ดี
พี
พี
โฟว
ในน้ํ
าลายของอาสาสมั
คร
แอคติ
วิ
ตี้
จํ
าเพาะ(IU/mg protein)
x10
-6
เอนไซม
กลุ
มที่
1
(n=30)
กลุ
มที่
2
(n=30)
กลุ
มที่
3
(n=30)
p-
value
a
เอเอพี
ค
ามั
ธยฐาน
(พิ
สั
ยควอไทล
)
ดี
พี
พี
โฟว
ค
ามั
ธยฐาน
(พิ
สั
ยควอไทล
)
0
(0.0 และ 0.0)
5.7
(0.0 และ17.3)
0
(0.0และ 315.5)
29.7 *
(12.2 และ41.4)
0
(0.0 และ0.0)
22.7 *
(11.4 และ49.2)
0.567
0.001
a = ทดสอบโดยใช
สถิ
ติ
Kruskal-Wallis test
* p = 0.001 เมื่
อเปรี
ยบเที
ยบกั
บกลุ
มที่
1
ส
วนการหาความสั
มพั
นธ
ของแอคติ
วิ
ตี้
จํ
าเพาะของ เอเอพี
และ ดี
พี
พี
โฟว
ในน้ํ
าลายกั
บค
าการตรวจวั
ทางคลิ
นิ
กและอั
ตราการไหลของน้ํ
าลายและความสั
มพั
นธ
ระหว
างเอนไซม
ทั้
ง 2 ชนิ
ด ดั
งตารางที่
3 พบว
าแอคติ
วิ
ตี้
จํ
าเพาะของ เอเอพี
ไม
มี
ความสั
มพั
นธ
กั
บค
าใดๆในตาราง ส
วนแอคติ
วิ
ตี้
จํ
าเพาะของ ดี
พี
พี
โฟว
มี
ความสั
มพั
นธ
กั
บทุ
ค
าในตารางยกเว
นความสั
มพั
นธ
กั
บแอคติ
วิ
ตี้
จํ
าเพาะของ เอเอพี
ตารางที่
3 แสดงความสั
มพั
นธ
ของแอคติ
วิ
ตี้
จํ
าเพาะ เอเอพี
และ ดี
พี
พี
โฟว
กั
บ อั
ตราการไหลของน้ํ
าลาย และ
พารามิ
เตอร
ทางคลิ
นิ
ก และความสั
มพั
นธ
ระหว
างเอนไซม
ทั้
ง 2 ชนิ
อั
ตราการไหล
ของน้ํ
าลาย
ค
าเฉลี่
ยร
อง
ลึ
กปริ
ทั
นต
ค
าเฉลี่
ยระดั
การยึ
ดเกาะของ
อวั
ยวะปริ
ทั
นต
ร
อยละของ
การมี
เลื
อดออก
ของเหงื
อก
เอน
ไซม
เอเอพี
เอน
ไซม
ดี
พี
พี
โฟว
เอนไซม
เอเอพี
สั
มประสิ
ทธิ์
สหสั
มพั
นธ
p-value*
เอนไซม
ดี
พี
พี
โฟว
สั
มประสิ
ทธิ์
สหสั
มพั
นธ
p-value*
0.055
0.604
-0.240
0.023
0.041
0.703
0.392
<0.001
-0.023
0.828
0.341
0.001
-0.007
0.945
0.445
<0.001
0.124
0.242
0.124
0.242
* ทดสอบโดยใช
สถิ
ติ
Spearman’s correlation
จากการศึ
กษานี้
พบว
าการตรวจพบแอคติ
วิ
ตี้
จํ
าเพาะของดี
พี
พี
โฟว
ในน้ํ
าลายของผู
ป
วยโรคปริ
ทั
นต
อั
กเสบ
มี
ค
ามากกว
าผู
ที่
มี
สภาพปริ
ทั
นต
ปกติ
ซึ่
งเหมื
อนผลการศึ
กษาของ Elgun และคณะ (Elgun et al., 2000) ทั้
งนี้
อาจจะ
เนื่
องมาจาก ดี
พี
พี
โฟว
มี
หน
าที่
เป
นคอลลาจี
เนส เกี่
ยวข
องกั
บระบบภู
มิ
คุ
มกั
น มี
ความสั
มพั
นธ
กั
บโรคติ
ดเชื้
แบคที
เรี
ยและไวรั
ส และพบว
ามี
เชื้
อแบคที
เรี
ยบางชนิ
ดสามารถสร
างดี
พี
พี
โฟว
ได
เช
น เชื้
อพอร
ไฟโรโมแนส จิ
งจิ
วา
ริ
ส (
P.gingivalis
) (Shipp and Look, 1993) ซึ่
งเป
นเชื้
อที่
สํ
าคั
ญในการก
อโรคปริ
ทั
นต
อั
กเสบ ดั
งนั้
นดี
พี
พี
โฟว
อาจมี
ความเกี่
ยวข
องกั
บกระบวนการอั
กเสบของโรคปริ
ทั
นต
อั
กเสบด
วย
1...,527,528,529,530,531,532,533,534,535,536 538,539,540,541,542,543,544,545,546,547,...702
Powered by FlippingBook