เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 147

สร้
างทีÉ
เหยี
ยบหรื
อจั
บ โดยการตอกไม้
เข้
าไปในลํ
าต้
นของต้
นไม้
การทอยนั
Ê
นเป็
นวิ
ธี
การทีÉ
ใช้
กั
บต้
นไม้
ใหญ่
ทีÉ
ไม่
สามารถ
ใช้
วิ
ธี
การต่
างๆทีÉ
กล่
าวมาข้
างต้
นได้
จึ
งใช้
การทอยไม้
แทน (สมพงค์
มากพั
นธ์
, (สั
มภาษณ์
) 15 ตุ
ลาคม 2552)
การขึ
Ê
นจั
บผึ
Ê
งหลวง
การขึ
Ê
นจั
บผึ
Ê
งหลวงโดยส่
วนใหญ่
จะเกีÉ
ยวข้
องกั
บตั
วพรานเอง ในการขึ
Ê
นจั
บแต่
ละครั
Ê
งจะมี
ที
มงานประมาณ 3-4
คน แต่
ละคนก็
จะมี
หน้
าทีÉ
แตกต่
างกั
นออกไป หน้
าทีÉ
ทีÉ
สํ
าคั
ญทีÉ
สุ
ดคื
อคนทีÉ
ขึ
Ê
นจั
บ ก่
อนการจั
บผึ
Ê
งแต่
ละครั
Ê
งจะทํ
าพิ
ธี
ไหว้
ไม้
ซึ
É
งกล่
าวถึ
งเจ้
าทีÉ
เจ้
าทาง เจ้
าไม้
เจ้
าป่
า เจ้
าเขา สิÉ
งศั
กดิ
Í
สิ
ทธิ
Í
ทั
Ê
งหลายทีÉ
สถิ
ตอยู
บริ
เวณนั
Ê
น เพืÉ
อจะได้
ทํ
างานและจั
บผึ
Ê
งได้
อย่
าง
สะดวกปลอดภั
ย เมืÉ
อกล่
าวเสร็
จที
มงานของพรานผึ
Ê
งก็
จะนํ
าอุ
ปกรณ์
ต่
างๆทีÉ
ใช้
ในการจั
บผึ
Ê
งมาให้
จากนั
Ê
นพรานผึ
Ê
งจะเริÉ
จุ
ดม็
อง เมืÉ
อม็
องติ
ดและมี
ควั
นขึ
Ê
น พรานผึ
Ê
งก็
ขึ
Ê
นต้
นไม้
และอยู
ห่
างจากรั
งผึ
Ê
งประมาณ 1 ฟุ
ตก็
จะใช้
ม็
องทีÉ
มี
ควั
นจํ
านวนมาก
แกว่
งไปแกว่
งมาเพืÉ
อไล่
ผึ
Ê
งออกจากรั
ง เมืÉ
อผึ
Ê
งออกหมดก็
จะนํ
ากระสอบมารองรั
บรั
งผึ
Ê
งหลั
งจากนั
Ê
นก็
ใช้
มี
ดตั
ดเอาเฉพาะ
หั
วนํ
Ê
าหวาน จากนั
Ê
นผู
กกระสอบให้
สนิ
ทด้
วยสายยางและใช้
ผ้
าขาวม้
าทํ
าเป็
นสายสะพายให้
มี
ลั
กษณะคล้
ายกั
บเป้
สะพาย
หลั
งจึ
งปี
นลงจากต้
นไม้
ระหว่
างนั
Ê
นก็
ใช้
ม็
องแกว่
งไปแกว่
งมาเพืÉ
อให้
เกิ
ดควั
นและป้
องกั
นตั
วผึ
Ê
งทีÉ
จะตามมาด้
วย จากนั
Ê
เทนํ
Ê
าผึ
Ê
งลงในภาชนะทีÉ
เตรี
ยมไว้
และทํ
าการคั
ดเลื
อกตั
วผึ
Ê
งหลวงทีÉ
ติ
ดมาออกให้
หมด บี
บหั
วนํ
Ê
าหวานจนหมดแล้
ว ก็
นํ
ผ้
าขาวบางมากรองกากของขี
Ê
ผึ
Ê
งออกอี
กครั
Ê
งหนึ
É
ง ขั
Ê
นตอนสุ
ดท้
ายนํ
านํ
Ê
าผึ
Ê
งมาบรรจุ
ใส่
ขวดแล้
วใช้
ทางสาคู
หรื
อทางระกํ
ตากแห้
งมาเหลาให้
มี
ลั
กษณะเป็
นทรงกระบอก ยาวประมาณ 4-5 เซนติ
เมตร ขนาดเท่
ากั
บปากขวด เหตุ
ผลทีÉ
ใช้
ทางสาคู
หรื
อทางระกํ
ามาใช้
นั
Ê
นเพราะมี
คุ
ณสมบั
ติ
ทีÉ
สามารถระบายอากาศได้
ถ้
าใช้
อย่
างอืÉ
นมาเป็
นทีÉ
ปิ
ดปากขวด อาจทํ
าให้
เกิ
แรงดั
นของอากาศส่
งผลให้
ขวดแตกได้
หลั
งจากนั
Ê
นก็
นํ
าไปเก็
บไว้
ทีÉ
อุ
ณหภู
มิ
ห้
องเพืÉ
อรอการใช้
ประโยชน์
ต่
อไป (วานิ
พรหมแก้
ว, (สั
มภาษณ์
) 15 ตุ
ลาคม 2552)
ที
มงานของพรานผึ
Ê
งหลวง
เหตุ
ผลทีÉ
ต้
องมี
ที
มงานของพรานผึ
Ê
งหลวงนั
Ê
นเพราะว่
าการจั
บผึ
Ê
งไม่
สามารถทํ
าคนเดี
ยวได้
ทุ
กขั
Ê
นตอนมี
ความ
ลํ
าบากต้
องอาศั
ยการทํ
างานเป็
นที
ม ไม่
ว่
าจะเป็
นขั
Ê
นตอนในการติ
ดตามค้
นหา การแค การทอย เป็
นต้
น และจากความเชืÉ
ในสมั
ยก่
อนว่
าในการเข้
าป่
าอาจจะพบกั
บอั
นตรายจากสิÉ
งต่
างๆ ทั
Ê
งสั
ตว์
และมนุ
ษย์
ด้
วยกั
นเองหรื
อบางครั
Ê
งอาจจะเกิ
ดจาก
สิÉ
งทีÉ
มองไม่
เห็
น ไม่
สามารถสั
มผั
สได้
เมืÉ
อเกิ
ดเหตุ
ร้
ายขึ
Ê
นก็
จะได้
ช่
วยเหลื
อกั
นได้
(จั
กรเพชร จั
นทรมาศ, (สั
มภาษณ์
) 15
ตุ
ลาคม 2552
ส่
วนทีÉ
3 ความเชืÉ
อกั
บการอนุ
รั
กษ์
ผึ
Ê
งหลวงอย่
างยัÉ
งยื
ความเชืÉ
อเกีÉ
ยวกั
บการจั
บผึ
Ê
งหลวงนั
Ê
นอยู
คู่
กั
บพรานผึ
Ê
งหลวงในชุ
มชนบ้
านถํ
Ê
าพระพุ
ทธ ประกอบด้
วย
ความเชืÉ
อดั
งนี
Ê
1) ความเชืÉ
อเกีÉ
ยวกั
บลั
กษณะการสร้
างรั
งของผึ
Ê
งหลวง ในสมั
ยอดี
ตกาลเชืÉ
อกั
นว่
าผึ
Ê
งหลวงรั
งใดทีÉ
มี
ลั
กษณะการ
สร้
างรั
งตั
Ê
งฉากกั
บการเคลืÉ
อนทีÉ
ของดวงอาทิ
ตย์
เรี
ยกกั
นว่
า “สร้
างขวางหวั
น” ลั
กษณะรั
งผึ
Ê
งหลวงแบบนี
Ê
พรานผึ
Ê
งหลวงจะ
ไม่
ค่
อยจั
บ เพราะผึ
Ê
งหลวงรั
งนั
Ê
นมี
ลั
กษณะผิ
ดปกติ
และเชืÉ
อว่
าผึ
Ê
งมี
ความดุ
ร้
ายไม่
สามารถจั
บได้
ถ้
าพรานผึ
Ê
งหลวงคนใดจั
ก็
จะโดนผึ
Ê
งทํ
าร้
ายได้
2) ความเชืÉ
อเกีÉ
ยวกั
บสถานทีÉ
ในการสร้
างรั
งของผึ
Ê
งหลวง ส่
วนใหญ่
เป็
นพื
Ê
นทีÉ
ทีÉ
ใช้
ในการประกอบพิ
ธี
กรรมทาง
ศาสนาหรื
อเป็
นพื
Ê
นทีÉ
ทีÉ
ใช้
ในการฝั
งศพ เชืÉ
อกั
นว่
า ผึ
Ê
งนั
Ê
นมี
เจ้
าของเจ้
าของทีÉ
กล่
าวถึ
งหมายถึ
ง ภู
ตผี
หรื
อวิ
ญญาณทีÉ
เร่
รอน
ลั
กษณะการสร้
างรั
งของสถานทีÉ
แบบนี
Ê
ก็
จะทํ
าให้
ผึ
Ê
งสามารถขยายพั
นธุ
ได้
อย่
างเต็
มทีÉ
โดยไม่
มี
ใครรุ
กราน
3) ความเชืÉ
อเกีÉ
ยวกั
บลั
กษณะของตั
วผึ
Ê
งและพฤติ
กรรมของผึ
Ê
ง ลั
กษณะของผึ
Ê
งภายนอกจะมี
สี
เข้
ม ดํ
า และตั
วใหญ่
กว่
าปกติ
มี
การเคลืÉ
อนไหวภายในรั
งตลอดเวลา บางครั
Ê
งทํ
ารั
งใหญ่
พองโตดู
น่
ากลั
ว บางครั
Ê
งทํ
ารั
งแบบลั
กษณะ ลู
ลม
1...,137,138,139,140,141,142,143,144,145,146 148,149,150,151,152,153,154,155,156,157,...1102
Powered by FlippingBook