ผู
้
ให้
ข้
อมู
ล เพราะผู
้
ให้
ข้
อมู
ลหลั
กยั
งเป็
นกลุ
่
มผู
้
ทีÉ
ยั
งคงจั
บผึ
Ê
งอยู
่
แต่
ผู
้
ให้
ข้
อมู
ลเสริ
มเป็
นกลุ
่
มทีÉ
ไม่
ได้
จั
บผึ
Ê
งหลวงแล้
ว
เนืÉ
องจากข้
อจํ
ากั
ดทางด้
านเวลา และอายุ
3) กลุ
่
มผู
้
ให้
ข้
อมู
ลทัÉ
วไป เป็
นคนทีÉ
อาศั
ยอยู
่
ในท้
องถิÉ
นนี
Ê
มาตั
Ê
งแต่
กํ
าเนิ
ด ได้
เห็
นถึ
งความสั
มพั
นธ์
ของ
วิ
ถี
ชี
วิ
ตระหว่
างคนกั
บผึ
Ê
งทีÉ
มี
มาแต่
อดี
ต และเป็
นผู
้
ซึ
É
งไม่
เคยอพยพโยกย้
ายไปอาศั
ยอยู
่
ในถิÉ
นอืÉ
นมาก่
อน
4. นํ
าข้
อมู
ลทีÉ
ได้
มารวบรวมทั
Ê
งข้
อมู
ลทุ
ติ
ยภู
มิ
ทีÉ
ได้
จากหนั
งสื
อ เอกสาร วารสาร บทความจากงานวิ
จั
ยทีÉ
เกีÉ
ยวข้
องมาวิ
เคราะห์
เพืÉ
อเป็
นข้
อมู
ลสนั
บสนุ
นข้
อมู
ลปฐมภู
มิ
ทีÉ
ได้
จากการเก็
บข้
อมู
ลภาคสนาม และมาประมวลผลร่
วมกั
บ
ข้
อมู
ลภาคสนามมาวิ
เคราะห์
เชิ
งพรรณนา
ผลการศึ
กษาและอภิ
ปรายผล
ผู
้
วิ
จั
ยขอนํ
าเสนอผลการศึ
กษาออกเป็
น 3 ประเด็
นดั
งนี
Ê
ประเด็
นแรกเป็
นข้
อมู
ลพื
Ê
นฐานของชุ
มชนบ้
านถํ
Ê
าพระ
พุ
ทธ ซึ
É
งประกอบด้
วยข้
อมู
ลทัÉ
วไปของชุ
มชน ได้
แก่
ลั
กษณะภู
มิ
ประเทศ ลั
กษณะภู
มิ
อากาศ การคมนาคม และประวั
ติ
หมู
่
บ้
าน ประเด็
นทีÉ
สองเป็
นวิ
ธี
การและขั
Ê
นตอนการจั
บผึ
Ê
งของพรานผึ
Ê
งหลวงชุ
มชนบ้
านถํ
Ê
าพระพุ
ทธจั
งหวั
ดตรั
ง และ
จั
งหวั
ดนครศรี
ธรรมราช ซึ
É
งประกอบด้
วย การสั
งเกตฤดู
กาล การติ
ดตามค้
นหารั
งผึ
Ê
งหลวง อุ
ปกรณ์
การจั
บผึ
Ê
งหลวง
วิ
ธี
การปั
กกํ
า วิ
ธี
การปี
นต้
นไม้
การขึ
Ê
นจั
บผึ
Ê
งหลวง และที
มงานของพรานผึ
Ê
งหลวง และประเด็
นทีÉ
สามเป็
นความเชืÉ
อกั
บ
การอนุ
รั
กษ์
ผึ
Ê
งหลวงอย่
างยัÉ
งยื
น ของชุ
มชนบ้
านถํ
Ê
าพระพุ
ทธ จั
งหวั
ดตรั
ง และ จั
งหวั
ดนครศรี
ธรรมราช
ซึ
É
งประกอบด้
วย
ความเชืÉ
อกั
บการอนุ
รั
กษ์
วิ
ธี
การจั
บของพราน และอุ
ปกรณ์
การจั
บผึ
Ê
งหลวง โดยแต่
ละประเด็
นมี
รายละเอี
ยดดั
งนี
Ê
ส่
วนทีÉ
1 ข้
อมู
ลทัÉ
วไปของชุ
มชนบ้
านถํ
Ê
าพระพุ
ทธ
บ้
านถํ
Ê
าพระพุ
ทธ มาจากชืÉ
อของวั
ดถํ
Ê
าพระ ต่
อมาเมืÉ
อ พ.ศ.2464 จึ
งได้
มี
การเปลีÉ
ยนชืÉ
อเป็
น “วั
ดถํ
Ê
าพระพุ
ทธ”
เนืÉ
องจากภายในมี
พระพุ
ทธรู
ปมากมาย อี
กทั
Ê
งยั
งมี
พระพุ
ทธรู
ปทองคํ
า ทองสํ
าริ
ด และเนื
Ê
อหยกอยู
่
ภายในวั
ด ลั
กษณะ
ภู
มิ
ประเทศพื
Ê
นทีÉ
ส่
วนใหญ่
เป็
นทีÉ
ราบเชิ
งเขา มี
ทรั
พยากรธรรมชาติ
ป่
าไม้
และสั
ตว์
ป่
าอย่
างอุ
ดมสมบู
รณ์
ลั
กษณะภู
มิ
อากาศ
โดยทัÉ
วไปจะมี
2 ฤดู
คื
อฤดู
ร้
อนและฤดู
ฝน แต่
ในฤดู
ร้
อนอากาศไม่
ร้
อนมากนั
ก เพราะพื
Ê
นทีÉ
ส่
วนใหญ่
อุ
ดมไปด้
วยป่
าไม้
การคมนาคมบ้
านถํ
Ê
าพระพุ
ทธ มี
ระยะทางห่
างจากทีÉ
ว่
าการอํ
าเภอรั
ษฎาในจั
งหวั
ดตรั
งประมาณ 20 กิ
โลเมตร
ส่
วนทีÉ
2 วิ
ธี
การและขั
Ê
นตอนการจั
บผึ
Ê
งหลวง
จากการศึ
กษาวิ
ธี
การและขั
Ê
นตอนการจั
บผึ
Ê
งของพรานผึ
Ê
ง พบว่
า การจั
บผึ
Ê
งหลวงเป็
นวิ
ธี
การใช้
ประโยชน์
จากผึ
Ê
ง
หลวงในการเลี
Ê
ยงชี
พนั
Ê
นเป็
นความความสั
มพั
นธ์
ระหว่
างคนกั
บทรั
พยากรในพื
Ê
นทีÉ
ซึ
É
งวิ
ธี
การและขั
Ê
นตอนของการจั
บผึ
Ê
ง
ของพรานผึ
Ê
งหลวงชุ
มชนเริÉ
มจาก
1. การสั
งเกตฤดู
กาล ผึ
Ê
งหลวงเริÉ
มอพยพเข้
ามาอาศั
ยในเขตพื
Ê
นทีÉ
ชุ
มชนประมาณเดื
อนมี
นาคม ถึ
งเดื
อนมิ
ถุ
นายน
ของทุ
กปี
ซึ
É
งตรงกั
บช่
วงฤดู
แล้
ง ในช่
วงจะมี
ดอกไม้
ป่
านานาชนิ
ดบานซึ
É
งเหมาะต่
อการสร้
างรั
งวางไข่
เพืÉ
อขยายพั
นธุ
์
ของ
ผึ
Ê
งหลวง (สุ
รั
ญญา พรหมแก้
ว, (สั
มภาษณ์
) 15 ตุ
ลาคม 2552)
2. การติ
ดตามค้
นหารั
งผึ
Ê
งหลวงสามารถได้
4 วิ
ธี
ด้
วยกั
น คื
อ 1) สั
งเกตบริ
เวณต้
นไม้
ทีÉ
ผึ
Ê
งหลวงเคยสร้
างรั
งมา
ก่
อนในปี
ทีÉ
แล้
ว ปี
ต่
อมาผึ
Ê
งหลวงก็
มั
กจะกลั
บมาสร้
างรั
งทีÉ
เดิ
ม 2) การลงกิ
นนํ
Ê
าหรื
อคราบนํ
Ê
าของผึ
Ê
งหลวง เพราะในตอน
กลางวั
นรั
งผึ
Ê
งจะได้
รั
บแสงแดด จึ
งทํ
าให้
ผึ
Ê
งหลวงต้
องบิ
นไปเอานํ
Ê
าให้
ตั
วอ่
อนและควบคุ
มอุ
ณหภู
มิ
ภายในรั
ง โดยพรานผึ
Ê
ง
จะสั
งเกตพฤติ
กรรมเหล่
านี
Ê
และออกติ
ดตามด้
วยคื
อจะยื
นเป็
นจุ
ดๆทีÉ
ผึ
Ê
งบิ
นผ่
านแล้
วมองด้
วยตาเปล่
า แต่
ถ้
ามองไม่
เห็
นก็
จะ
ใช้
เส้
นด้
ายผู
กทีÉ
ตั
วผึ
Ê
ง เพืÉ
อให้
ง่
ายต่
อการติ
ดตาม 3) สั
งเกตพฤติ
กรรมของผึ
Ê
งหลวงทีÉ
อยู
่
ในวรรณะผึ
Ê
งงาน ในการหา
นํ
Ê
าหวานของดอกไม้
ป่
า สํ
าหรั
บวิ
ธี
การนี
Ê
การสั
งเกตคล้
ายกั
บในวิ
ธี
ทีÉ
2 คื
อจะยื
นเป็
นจุ
ดๆทีÉ
ผึ
Ê
งบิ
นผ่
านแล้
วมองด้
วยตาเปล่
า
แต่
ถ้
ามองไม่
เห็
นก็
จะใช้
เส้
นด้
ายเช่
นกั
น 4) สั
งเกตพฤติ
กรรมของผึ
Ê
งหลวงในขณะทีÉ
นํ
าลู
กผึ
Ê
งออกมาถ่
ายมู
ล วิ
ธี
การนี
Ê
พรานผึ
Ê
งจะเดิ
นเข้
าไปในป่
าโดยจะสั
งเกตตามใบไม้
ว่
ามี
มู
ลของผึ
Ê
งติ
ดอยู
่
หรื
อไม่
ลั
กษณะของมู
ลผึ
Ê
งจะเป็
นสี
เหลื
อง เป็
นจุ
ด