เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 210

4
ค่
าไม่
แตกต่
างกั
น โดยปุ
ยยู
เรี
ยเป็
นปุ
ยทีÉ
ให้
แอมโมเนี
ยมไอออนซึ
É
งพื
ชดู
ดไปใช้
ได้
ดี
และถู
กชะล้
างได้
น้
อย แต่
เมืÉ
อดิ
นมี
อุ
ณหภู
มิ
และความชื
Ê
นทีÉ
เหมาะสม แอมโมเนี
ยมไอออนจะถู
กจุ
ลิ
นทรี
ย์
ในดิ
นออกซิ
ไดส์
ให้
เป็
นไนเตรทไอออนซึ
É
งจะถู
ชะล้
างได้
ง่
าย นอกจากนี
Ê
เมืÉ
อดิ
นขาดออกซิ
เจนไนเทรตไนออนยั
งถู
กจุ
ลิ
นทรี
ย์
ดิ
นรี
ดิ
วซ์
ให้
กลายเป็
นก๊
าชไนโตรเจนและ
ระเหยสู
ญเสี
ยไปในอากาศ ไทโอยู
เรี
ยเป็
นสารทีÉ
ช่
วยยั
บยั
Ê
งกระบวนการไนตริ
ฟิ
เคชั
นทํ
าหน้
าทีÉ
ชะลอกิ
จกรรมของ
Nitrosomanass
spp. ในการออกซิ
ไดส์
แอมโมเนี
ยมให้
เป็
นไนเทรต
ทํ
าให้
สั
บปะรดดู
ดใช้
ธาตุ
ไนโตรเจนในรู
แอมโมเนี
ยมได้
นานขึ
Ê
น ปุ
ยทีÉ
ใส่
ลงไปมี
การสู
ญเสี
ยน้
อยลง ทํ
าให้
ปริ
มาณไนโตรเจนในใบสู
งขึ
Ê
นด้
วย (Kholdebarin and
Oertli, 1944; Prasad and Power, 1995; Nelson
et al
., 1977)
Table 1.
Effect of urea fertilizer management on nitrogen concentration in D-leave, fresh fruit weight and chemical
composition of pineapple fruit.
Urea fertilizer application methods
SEM
p-value
Land-up
Sprinkle
Pre-mixed with thiourea
Nitrogen in D-leave (%)
0.98
a
0.77
b
0.99
a
0.03
**
Fruit fresh weight (g/fruit)
771
820
869
65
ns
Total soluble solids (%Brix)
13.05
11.70
13.15
0.75
ns
Titration acidity (%)
0.58
0.71
0.69
0.07
ns
**-p<0.01, ns-non significance
ผลผลิ
ตและองค์
ประกอบทางเคมี
ของสั
บปะรด
จากการศึ
กษาถึ
งนํ
Ê
าหนั
กสดของผลสั
บปะรด และปริ
มาณของแข็
งทีÉ
ละลายนํ
Ê
าได้
(%Brix) และเปอร์
เซ็
นต์
ปริ
มาณกรดทีÉ
ไทเทรตได้
ของผลสั
บปะรด พบว่
า มี
ค่
าไม่
แตกต่
างทางสถิ
ติ
ระหว่
างสิ
É
งทดลอง (p>0.05) โดยค่
าเฉลีÉ
ยของ
นํ
Ê
าหนั
กผลสั
บปะรดและของแข็
งทีÉ
ละลายได้
และปริ
มาณกรดซิ
ตริ
กในผลสั
บปะรดอยู่
ในช่
วง 771-869 กรั
ม 11.70-13.15
เปอร์
เซ็
นต์
และ 22.23-26.70 เปอร์
เซ็
นต์
ตามลํ
าดั
บ(Table 1)
Spironello
et al
. (2004) พบว่
า ระดั
บการใส่
ปุ
ยไนโตรเจนหรื
อโพแทสเซี
ยมทีÉ
เพิ
É
มขึ
Ê
นไม่
มี
ผลต่
อระดั
บของแข็
ทีÉ
ละลายได้
ในผลสั
บปะรด เช่
นเดี
ยวกั
บรายงานผลการศึ
กษาของ อุ
ไรวรรณ (2552) ซึ
É
งพบว่
า การเพิ
É
มระดั
บปุ
ยมู
ลไก่
นั
Ê
แม้
ว่
าจะทํ
าให้
ระดั
บไนโตรเจนในดิ
นสู
งขึ
Ê
นแต่
ไม่
มี
ผลต่
อระดั
บของแข็
งทีÉ
ละลายได้
ในผลสั
บปะรด Robinson
et al
.,
(1997) รายงานว่
า ความเข้
มข้
นของธาตุ
อาหารโดยเฉพาะไนโตรเจนในใบ D-leave ของสั
บปะรดทีÉ
เพี
ยงพอต่
อความ
ต้
องการทีÉ
สามารถทํ
าให้
สั
บปะรดให้
ผลผลิ
ตทีÉ
มี
คุ
ณภาพอยู่
ในระดั
บดี
นั
Ê
นควรมี
ค่
าอยู่
ในช่
วง 1.6-1.9 เปอร์
เซ็
นต์
อย่
างไรก็
ตาม จากการศึ
กษาครั
Ê
งนี
Ê
ปริ
มาณความเข้
มข้
นของธาตุ
ไนโตรเจนในใบ D-leave ของสั
บปะรดมี
ค่
าอยู่
ในช่
วง 0.77-0.99
เปอร์
เซ็
นต์
เท่
านั
Ê
นซึ
É
งตํ
É
ากว่
าค่
ามาตรฐานทั
É
วไปจึ
งอาจกล่
าวได้
ว่
า การใส่
ปุ
ยไนโตรเจนในอั
ตรา150 กก. N/ไร่
นั
Ê
นไม่
เพี
ยงพอต่
อความต้
องการของสั
บปะรดซึ
É
งอาจจะเป็
นสาเหตุ
หนึ
É
งทีÉ
ทํ
าให้
ผลผลิ
ตเพิ
É
มขึ
Ê
นน้
อย
สรุ
ปผลการทดลอง
การศึ
กษาการจั
ดการวิ
ธี
การใส่
ปุ
ยยู
เรี
ยทีÉ
มี
ต่
อสมรรถนะการผลิ
ตของสั
บปะรด สรุ
ปได้
ว่
า การโรยปุ
ยยู
เรี
ยตรง
โคนต้
นซึ
É
งเป็
นวิ
ธี
การทีÉ
ไม่
ยุ่
งยากและเกษตรกรส่
วนใหญ่
ใช้
กั
นนั
Ê
น มี
ผลทํ
าให้
ปริ
มาณความเข้
มข้
นของธาตุ
ไนโตรเจนใน
ใบสั
บปะรดมี
ค่
าน้
อยทีÉ
สุ
ด แต่
เมืÉ
อมี
การใช้
ไทโอยู
เรี
ยผสมในปุ
ยยู
เรี
ยแล้
วโรยตรงโคนต้
นกลั
บเป็
นกรรมวิ
ธี
ที
É
ทํ
าให้
ความ
1...,200,201,202,203,204,205,206,207,208,209 211,212,213,214,215,216,217,218,219,220,...1102
Powered by FlippingBook