เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 718

2
บทนา
อิ
ทธิ
พลของกระแสโลกาภิ
วั
ฒน์
ได้
ส่
งผลให้
ประเทศไทยเกิ
ดการเปลี่
ยนแปลงทางสั
งคมและวั
ฒนธรรมคนไทย
ส่
วนใหญ่
มี
พฤติ
กรรมสุ
ขภาพในชี
วิ
ตประจาวั
นที่
ไม่
เหมาะสมส่
งผลให้
ประชาชนเจ็
บป่
วยด้
วยโรคที่
เกิ
ดจากพฤติ
กรรม
สุ
ขภาพ เสี
ยชี
วิ
ตด้
วยโรคที่
ป้
องกั
นได้
ทาให้
เสี
ยค่
าใช้
จ่
ายในการดู
แลสุ
ขภาพสู
งขึ้
น (ชื่
นฤทั
ย กาญจนะจิ
ตรา, 2552) จาก
ผลการสารวจของสานั
กนโยบายและยุ
ทธศาสตร์
กระทรวงสาธารณสุ
ข ปี
2552 พบว่
า คนไทยตายด้
วยโรคหั
วใจ 28.96
ต่
อแสนประชากร ความดั
นเลื
อดสู
งและโรคหลอดเลื
อดในสมอง 20.8 ต่
อแสนประชากร
(กลุ่
มภาระกิ
จด้
านข้
อมู
ข่
าวสารและสารสนเทศสุ
ขภาพ, 2552) โรคเหล่
านี้
มี
ปั
จจั
ยที่
สาคั
ญที่
เกิ
ดจากการมี
พฤติ
กรรมสุ
ขภาพที่
ไม่
เหมาะสม ซึ่
ทั้
งนี้
การขาดการออกกาลั
งกายที่
เพี
ยงพอ เป็
นพฤติ
กรรมสุ
ขภาพที่
สาคั
ญประการหนึ่
งที่
ส่
งผลต่
อภาวะสุ
ขภาพ จะเห็
นได้
ว่
าหากประชาชนมี
การปรั
บเปลี่
ยนพฤติ
กรรมสุ
ขภาพ ในวิ
ถี
การดารงชี
วิ
ตที่
เหมาะสม มี
พฤติ
กรรมการออกกาลั
งกาย ที่
สม่
าเสมอ จะสามารถป้
องกั
นโรคเรื้
อรั
งที่
อาจจะเกิ
ดขึ้
นโดยเฉพาะโรคอ้
วนลงพุ
ง โรคความดั
นโลหิ
ตสู
ง โรคเบาหวาน
และโรคหลอดเลื
อดหั
วใจ
(พรรณี
ทิ
พย์
ธราดลและคณะ, 2552)
ปั
จจุ
บั
นชุ
มชนเข้
ามามี
บทบาทในการสร้
างเสริ
มสุ
ขภาพของประชาชน ภายใต้
การดาเนิ
นงานตามกลยุ
ทธ์
การ
สร้
างความเข้
มแข็
งของชุ
มชน โดยขั
บเคลื่
อนให้
เกิ
ดการรวมตั
วกั
นของประชาชนในชุ
มชน เพื่
อจั
ดตั้
งเป็
นองค์
กรชุ
มชน มี
การดาเนิ
นกิ
จกรรมตามวั
ตถุ
ประสงค์
ขององค์
กรชุ
มชน เพื่
อพั
ฒนาสมาชิ
กภายในกลุ่
ม ซึ่
งมี
ผลให้
เกิ
ดการเรี
ยนรู้
ร่
วมกั
ในการดาเนิ
นกิ
จกรรมด้
านสุ
ขภาพ ก่
อให้
เกิ
ดการพั
ฒนาชุ
มชน การช่
วยเหลื
อเกื้
อกู
ลกั
น เพื่
อนาไปสู่
การมี
สุ
ขภาวะที่
ดี
(อาพล จิ
นดาวั
ฒน์
, 2551) จากการศึ
กษากลุ่
มสั
จจะลดรายจ่
ายวั
นละ 1 บาท เป็
นองค์
กรชุ
มชนหนึ่
งที่
มี
ความเข้
มแข็
ง โดยมี
การดาเนิ
นงานที่
เน้
นการออมจากการลดรายจ่
าย เพื่
อตั้
งเป็
นกองทุ
นสวั
สดิ
การชุ
มชนให้
กั
บสมาชิ
ก มี
เป้
าหมายร่
วมกั
ของกลุ่
ม คื
อ สร้
างสั
งคมดี
คนมี
ความสุ
ข การจั
ดตั้
งกลุ่
มสั
จจะลดรายจ่
ายวั
นละ 1 บาท ส่
งผลต่
อสุ
ขภาพในมิ
ติ
กาย จิ
สั
งคม และจิ
ตวิ
ญญาณ(ปั
ญญา) ที่
ช่
วยให้
คนในชุ
มชนสามารถพึ่
งพาตนเองได้
แต่
จากศึ
กษาพบว่
าไม่
มี
การดาเนิ
นงานของ
กลุ่
มสั
จจะลดรายจ่
ายในด้
านการสร้
างเสริ
มสุ
ขภาพ และขาดการประสานงานและใช้
แหล่
งประโยชน์
ในการดาเนิ
นการ
สร้
างเสริ
มสุ
ขภาพของแกนนาสุ
ขภาพชุ
มชน (สถาบั
นพั
ฒนาองค์
กรชุ
มชน, 2552)
จากการศึ
กษานาร่
องพฤติ
กรรมสุ
ขภาพของแกนนา กลุ่
มสั
จจะลดรายจ่
ายวั
นละ 1 บาท ของตาบลน้
าขาว อ.จะ
นะ จ.สงขลา จานวน 40 คนโดยใช้
แบบสอบถามพฤติ
กรรมการดู
แลสุ
ขภาพของแกนนา พบว่
า แกนนามี
พฤติ
กรรม
สุ
ขภาพไม่
เหมาะสมในด้
านการออกกาลั
งกาย คื
อ ออกกาลั
งกาย น้
อยกว่
าสั
ปดาห์
ละ 3 ครั้
ง คิ
ดเป็
นร้
อยละ 70 ออกกาลั
กายแต่
ละครั้
งประมาณ 30-60 นาที
คิ
ดเป็
นร้
อยละ 62 มี
ภาวะน้
าหนั
กตั
วเกิ
น คื
อ มี
ค่
าดั
ชนี
มวลกายมากกว่
า 23.5 คิ
ดเป็
ร้
อยละ 75 นอกจากนี้
ผลจากการประเมิ
นความพร้
อมในการปรั
บเปลี่
ยนพฤติ
กรรม พบว่
าแกนนากลุ่
มสั
จจะลดรายจ่
าย
วั
นละ 1 บาท มี
ความพร้
อมในการปรั
บเปลี่
ยนพฤติ
กรรม อยู่
ในระยะเริ่
มคิ
ดตั
ดสิ
นใจ หรื
อขั้
นลั
งเลใจ ซึ่
งเป็
นระยะที่
บุ
คคลตั้
งใจจะเปลี่
ยนแปลงพฤติ
กรรมภายใน 6 เดื
อนข้
างหน้
าตามแบบจาลองขั้
นตอนการเปลี่
ยนแปลงพฤติ
กรรมของ
ของโปรชาสกาและคณะ
(Prochaska et al., 1997)
จากการทบทวนวรรณกรรมที่
เกี่
ยวข้
อง พบว่
าได้
มี
การศึ
กษาถึ
งผลของโปรแกรมการสร้
างเสริ
มพฤติ
กรรมการ
ออกกาลั
งกาย ในกลุ่
มผู้
ป่
วยโรคเรื้
อรั
ง กลุ่
มบุ
คคลแต่
ละช่
วงวั
ย ในรู
ปแบบการวิ
จั
ยกึ่
งทดลอง และมี
การใช้
แนวคิ
สมรรถนะแห่
งตนและแบบจาลองขั้
นตอนการเปลี่
ยนแปลงพฤติ
กรรม ในการสร้
างโปรแกรม แต่
ยั
งไม่
พบว่
ามี
การศึ
กษา
โปรแกรมการสร้
างเสริ
มพฤติ
กรรมการออกกาลั
งกายในกลุ่
มแกนนาสุ
ขภาพชุ
มชน หรื
อ ผู้
นาชุ
มชน และประยุ
กต์
ใช้
แบบจาลองขั้
นตอนการเปลี่
ยนแปลงพฤติ
กรรมร่
วมกั
บการมี
ส่
วนร่
วมของกลุ่
ม ผู้
วิ
จั
ยจึ
งสนใจที่
จะศึ
กษาผลของ
โปรแกรมการส่
งเสริ
มพฤติ
กรรมออกกาลั
งกาย ตามระยะของขั้
นตอนการเปลี่
ยนแปลงพฤติ
กรรมต่
อพฤติ
กรรมการออก
กาลั
งกายของแกนนา กลุ่
มสั
จจะลดรายจ่
ายวั
นละ 1 บาท
1...,708,709,710,711,712,713,714,715,716,717 719,720,721,722,723,724,725,726,727,728,...1102
Powered by FlippingBook