การประชุมวิชาการและผลงานวิจัย มหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 17 2550 - page 386

6
กลุ
มตั
วอย
างที่
ใช
ในการศึ
กษาค
นคว
าครั้
งนี้
ได
มาโดยการสุ
มหลายขั้
นตอน (multi-stage random
sampling) จากนั
กเรี
ยนช
วงชั้
นที่
3 สั
งกั
ดสํ
านั
กงานเขตพื้
นที่
การศึ
กษา สงขลา โดยใช
มั
ธยมศึ
กษาป
ที่
3 ป
การศึ
กษา
2549 สั
งกั
ดสํ
านั
กงานคณะกรรมการการศึ
กษาขั้
นพื้
นฐานในจั
งหวั
ดสงขลา จํ
านวน 826 คน
2. เครื่
องมื
อที
ใช
ในการศึ
กษาค
นคว
ในการศึ
กษาครั้
งนี้
เครื่
องมื
อประเมิ
นจิ
ตวิ
ทยาศาสตร
สํ
าหรั
บนั
กเรี
ยนช
วงชั้
นที่
3 สั
งกั
ดสํ
านั
กงานเขต
พื้
นที่
การศึ
กษาสงขลา ประกอบด
วยเครื่
องมื
อวั
ด 3 ชนิ
ด ดั
งนี้
แบบทดสอบสถานการณ
จํ
านวน 124 ข
อ แบบสั
งเกต
โดยครู
ผู
สอนและเพื่
อนนั
กเรี
ยนในห
องเป
นแบบตรวจสอบรายการ จํ
านวน 60 ข
อ และแบบประเมิ
นตนเอง เป
นแบบ
มาตราส
วนประมาณค
าแบบลิ
เคอร
ท จํ
านวน 59 ข
3. วิ
ธี
ดํ
าเนิ
นการเก็
บรวบรวมข
อมู
การเก็
บรวบรวมข
อมู
ลมาทํ
าการวิ
เคราะห
นั้
ผู
วิ
จั
ยดํ
าเนิ
นการเป
นขั้
นตอน
ดั
งนี้
1.
นํ
าหนั
งสื
อจากบั
ณฑิ
ตวิ
ทยาลั
ยเพื่
อขออนุ
ญาตและติ
ดต
อโรงเรี
ยนที่
ใช
เป
นกลุ
มตั
วอย
างเพื่
อกํ
าหนด
วั
นและเวลาที่
ใช
ในการเก็
บข
อมู
2.
เตรี
ยมเครื่
องมื
อให
เพี
ยงพอ
สํ
าหรั
บการสอบเก็
บรวบรวมข
อมู
ลแต
ละครั้
งและวางแผนในการเก็
รวบรวมข
อมู
ล โดยผู
วิ
จั
ยดํ
าเนิ
นการเก็
บรวบรวมข
อมู
ลด
วยตั
วเอง
3.
อธิ
บายให
นั
กเรี
ยนในกลุ
มตั
วอย
างเข
าใจวั
ตถุ
ประสงค
ในการทํ
าเครื่
องมื
อประเมิ
นจิ
ตวิ
ทยาศาสตร
4.
อธิ
บายให
นั
กเรี
ยนเข
าใจในการเก็
บข
อมู
ลในการประเมิ
นจิ
ตวิ
ทยาศาสตร
โดยแยกการเก็
บข
อมู
ของเครื่
องมื
อการประเมิ
นในแต
ละชนิ
ดดั
งนี้
4.1
แบบทดสอบสถานการณ
โดยอธิ
บายให
นั
กเรี
ยนเข
าใจในการทํ
าแบบทดสอบสถานการณ
ก
อนที่
ให
นั
กเรี
ยนเริ่
มทํ
4.2
แบบสั
งเกต
เป
นแบบสั
งเกตโดยครู
ผู
สอนสาระการเรี
ยนรู
วิ
ทยาศาสตร
และเพื่
อนในห
องเรี
ยน
สํ
าหรั
บการสั
งเกตโดยเพื่
อนในห
องเรี
ยนนั้
นผู
สั
งเกตจะต
องจั
บฉลากรายชื่
อผู
ถู
กสั
งเกตเพี
ยงคนเดี
ยว
ซึ่
งรายชื่
อจะมี
อยู
ในแบบสั
งเกตโดยไม
ให
ทราบว
าใครสั
งเกตใครและไม
ให
ตรงกั
บรายชื่
อของตนเอง
4.3
แบบประเมิ
นตนเอง
โดยอธิ
บายให
นั
กเรี
ยนเข
าใจก
อนการทํ
าประเมิ
นตนเอง
5.
นํ
าผลการเก็
บข
อมู
ลเครื่
องมื
อประเมิ
นแต
ละชนิ
ดมาตรวจให
คะแนนวิ
เคราะห
รายข
อ และปรั
บปรุ
ข
อสอบครั้
งที่
1
6.
ดํ
าเนิ
นการสอบครั้
งที่
2
วิ
เคราะห
ข
อสอบรายข
อและคั
ดเลื
อกข
อสอบที่
ดี
จากการทดสอบครั้
งที่
2
7.
ดํ
าเนิ
นการสอบครั้
งที่
3
วิ
เคราะห
ข
อสอบเพื่
อหาคุ
ณภาพของเครื่
องมื
อแต
ละฉบั
บและสร
างเกณฑ
ปกติ
ของเครื่
องมื
อประเมิ
นจิ
ตวิ
ทยาศาสตร
4. วิ
ธี
การวิ
เคราะห
ข
อมู
ลและสถิ
ติ
ที่
ใช
1. ค
าสถิ
ติ
พื้
นฐานของเครื่
องมื
อประเมิ
น ได
แก
ค
าเฉลี่
ย ค
าความเบี่
ยงเบนมาตรฐานและค
าความ
คลาดเคลื่
อนมาตรฐานในการวั
2. สถิ
ติ
ที่
ใช
ในการหาคุ
ณภาพเครื่
องมื
อประเมิ
นจิ
ตวิ
ทยาศาสตร
ดั
งนี้
2.1 อํ
านาจจํ
าแนกของแบบทดสอบสถานการณ
และแบบประเมิ
นตนเองคํ
านวณโดยใช
การ
ทดสอบที
(t-test) แบบสั
งเกตโดยใช
ดั
ชนี
พอยท
ไบซี
เรี
ยล
1...,376,377,378,379,380,381,382,383,384,385 387,388,389,390,391,392,393,394,395,396,...702
Powered by FlippingBook