5
คณิ
ตศาสตร
เป
นความรู
พื้
นฐานที่
สํ
าคั
ญยิ่
งในการคิ
ดค
นและพั
ฒนาองค
ความรู
ใหม
ๆ ประเทศใดมี
บุ
คลากร
ที่
มี
ศั
กยภาพเป
นจํ
านวนมากในด
านความรู
ความสามารถทางคณิ
ตศาสตร
อย
างดี
ก็
จะเป
นเครื่
องบ
งชี้
สํ
าคั
ญประการ
หนึ่
งว
าประเทศนั้
นมี
ความเจริ
ญก
าวหน
ามากกว
าประเทศอื่
น ๆ จึ
งส
งผลให
ประเทศต
าง ๆ ให
ความสนใจกั
บ
การศึ
กษาในสาขาวิ
ชาคณิ
ตศาสตร
เป
นพิ
เศษ แต
สํ
าหรั
บประเทศการพั
ฒนากํ
าลั
งคนที่
มี
ความสามารถพิ
เศษทาง
คณิ
ตศาสตร
ยั
งไม
เพี
ยงพอ ทํ
าให
ประเทศขาดแคลนกํ
าลั
งคนทางคณิ
ตศาสตร
เป
นอย
างมาก เมื่
อเที
ยบกั
บประเทศ
พั
ฒนาแล
ว
นอกจากนี้
ศั
กยภาพของกํ
าลั
งคนที่
มี
อยู
ก็
ยั
งไม
เข็
มแข็
งกั
บนานาประเทศ เป
นผลให
กาเจริ
ญเติ
บโตทาง
เศรษฐกิ
จของประเทศยั
งจํ
าเป
นต
องอาศั
ยและพึ่
งพาเทคโนโลยี
ของต
างประเทศอยู
มาก (สํ
านั
กงานคณะกรรมการ
การศึ
กษาแห
งชาติ
สํ
านั
กนายกรั
ฐมนตรี
. 2544 : 1)
การจั
ดการศึ
กษาสํ
าหรั
บเด็
กที่
มี
ความสามารถพิ
เศษทางคณิ
ตศาสตร
จะต
องทํ
าความเข
าใจก
อนว
าเด็
กที่
มี
ความสามารถพิ
เศษทางคณิ
ตศาสตร
คื
ออะไร มี
ลั
กษณะและพฤติ
กรรมอย
างไร ครู
จะต
องเป
นคนช
างสั
งเกต เด็
กใน
ชั้
นเรี
ยนแต
ละคนมี
ความแตกต
างกั
นทั้
งบุ
คลิ
ก ความสามารถ และลี
ลาการเรี
ยนรู
อย
างไร เพื่
อใช
เป
นข
อมู
ลพื้
นฐานใน
การเสาะหาเด็
กที่
มี
ความสามารถพิ
เศษทางคณิ
ตศาสตร
ต
อไป และในการที่
จะทํ
าให
รู
ได
ว
า เด็
กนั
กเรี
ยนคนใดมี
ความสามารถพิ
เศษทางคณิ
ตศาสตร
หรื
อไม
และมี
อยู
ในระดั
บใด จํ
าเป
นที่
จะต
องใช
เครื่
องมื
อวั
ดที่
มี
คุ
ณภาพและได
มาตรฐาน จากจุ
ดเน
นของแผนการศึ
กษาแห
งชาติ
และพระราชบั
ญญั
ติ
การศึ
กษาแห
งชาติ
พ.ศ. 2542 ได
บั
ญญั
ติ
ไว
ใน
มาตรา 10 วรรคสี่
ว
า “การจั
ดการศึ
กษาสํ
าหรั
บบุ
คคลซึ่
งมี
ความสามารถพิ
เศษ ต
องจั
ดด
วยรู
ปแบบที่
เหมาะสมโดย
คํ
านึ
งถึ
งความสามารถของบบุ
คคลนั้
น” รวมไปถึ
งบทบาทสํ
าคั
ญของวิ
ชาคณิ
ตศาสตร
ซึ่
งมี
ความสํ
าคั
ญยิ่
งในป
จจุ
บั
น
ผู
วิ
จั
ยจึ
งมี
ความสนใจที่
จะพั
ฒนาเครื่
องมื
อที่
มี
คุ
ณภาพเพื่
อวั
ดคุ
ณลั
กษณะเด็
กที่
มี
ความสามารถพิ
เศษทางคณิ
ตศาสตร
ใน
ระดั
บชั
้
นมั
ธยมศึ
กษาป
ที่
3 ในจั
งหวั
ดสงขลา
วิ
ธี
ดํ
าเนิ
นการศึ
กษาค
นคว
า
1. ประชากรและกลุ
มตั
วอย
าง
ประชากรที่
ใช
ในการพั
ฒนาเครื่
องมื
อเป
นนั
กเรี
ยนระดั
บชั้
นมั
ธยมศึ
กษาป
ที่
3 โรงเรี
ยนมั
ธยมศึ
กษา ป
การศึ
กษา 2549 สั
งกั
ดสํ
านั
กงานเขตพื้
นที่
การศึ
กษา จั
งหวั
ดสงขลา จํ
านวน 9,909 คน (สํ
านั
กงานเขตพื้
นที่
การ ศึ
กษา
จั
งหวั
ดสงขลา. 2549) กลุ
มตั
วอย
างที่
ใช
ในการพั
ฒนาเครื่
องมื
อเป
นนั
กเรี
ยนระดั
บชั้
นมั
ธยมศึ
กษาป
ที่
3 โรงเรี
ยน
มั
ธยมศึ
กษา ป
การศึ
กษา 2549 สั
งกั
ดสํ
านั
กงานเขตพื้
นที่
การศึ
กษา จั
งหวั
ดสงขลา จํ
านวน 826 คน โดยวิ
ธี
สุ
มแบบ
หลายขั้
นตอน (multi – stage random sampling)
2. เครื่
องมื
อที่
ใช
ในการศึ
กษาค
นคว
า
เครื่
องมื
อที่
พั
ฒนาครั้
งนี้
เป
นเครื่
องมื
อวั
ดความสามารถพิ
เศษทางคณิ
ตศาสตร
มี
จํ
านวน 5 ฉบั
บ ดั
งนี้
ฉบั
บที่
1 แบบทดสอบวั
ดความสามารถในการจํ
า จํ
านวน 10 ข
อ มี
ลั
กษณะเป
นแบบเติ
มคํ
า ฉบั
บที่
2 แบบทดสอบวั
ด
ความคิ
ดสร
างสรรค
จํ
านวน 5 ข
อ มี
ลั
กษณะเป
นแบบเขี
ยนตอบ ฉบั
บที่
3 แบบทดสอบวั
ดความคิ
ดวิ
จารณญาณ
จํ
านวน 30 ข
อ มี
ลั
กษณะแบบเลื
อกตอบ ฉบั
บที่
4 แบบทดสอบวั
ดความสามารถในการคิ
ดแก
ป
ญหา จํ
านวน 5 ข
อ มี
ลั
กษณะเป
นแบบเขี
ยนตอบ ฉบั
บที่
5 แบบวั
ดความสนใจในการรวบรวมความรู
ทางคณิ
ตศาสตร
จํ
านวน 30 ข
อ มี
ลั
กษณะเป
นมาตราวั
ดเจตคติ
5 ระดั
บของลิ
เคิ
ร
ท