การประชุมวิชาการและผลงานวิจัย มหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 17 2550 - page 558

5
คณิ
ตศาสตร
เป
นความรู
พื้
นฐานที่
สํ
าคั
ญยิ่
งในการคิ
ดค
นและพั
ฒนาองค
ความรู
ใหม
ๆ ประเทศใดมี
บุ
คลากร
ที่
มี
ศั
กยภาพเป
นจํ
านวนมากในด
านความรู
ความสามารถทางคณิ
ตศาสตร
อย
างดี
ก็
จะเป
นเครื่
องบ
งชี้
สํ
าคั
ญประการ
หนึ่
งว
าประเทศนั้
นมี
ความเจริ
ญก
าวหน
ามากกว
าประเทศอื่
น ๆ จึ
งส
งผลให
ประเทศต
าง ๆ ให
ความสนใจกั
การศึ
กษาในสาขาวิ
ชาคณิ
ตศาสตร
เป
นพิ
เศษ แต
สํ
าหรั
บประเทศการพั
ฒนากํ
าลั
งคนที่
มี
ความสามารถพิ
เศษทาง
คณิ
ตศาสตร
ยั
งไม
เพี
ยงพอ ทํ
าให
ประเทศขาดแคลนกํ
าลั
งคนทางคณิ
ตศาสตร
เป
นอย
างมาก เมื่
อเที
ยบกั
บประเทศ
พั
ฒนาแล
นอกจากนี้
ศั
กยภาพของกํ
าลั
งคนที่
มี
อยู
ก็
ยั
งไม
เข็
มแข็
งกั
บนานาประเทศ เป
นผลให
กาเจริ
ญเติ
บโตทาง
เศรษฐกิ
จของประเทศยั
งจํ
าเป
นต
องอาศั
ยและพึ่
งพาเทคโนโลยี
ของต
างประเทศอยู
มาก (สํ
านั
กงานคณะกรรมการ
การศึ
กษาแห
งชาติ
สํ
านั
กนายกรั
ฐมนตรี
. 2544 : 1)
การจั
ดการศึ
กษาสํ
าหรั
บเด็
กที่
มี
ความสามารถพิ
เศษทางคณิ
ตศาสตร
จะต
องทํ
าความเข
าใจก
อนว
าเด็
กที่
มี
ความสามารถพิ
เศษทางคณิ
ตศาสตร
คื
ออะไร มี
ลั
กษณะและพฤติ
กรรมอย
างไร ครู
จะต
องเป
นคนช
างสั
งเกต เด็
กใน
ชั้
นเรี
ยนแต
ละคนมี
ความแตกต
างกั
นทั้
งบุ
คลิ
ก ความสามารถ และลี
ลาการเรี
ยนรู
อย
างไร เพื่
อใช
เป
นข
อมู
ลพื้
นฐานใน
การเสาะหาเด็
กที่
มี
ความสามารถพิ
เศษทางคณิ
ตศาสตร
ต
อไป และในการที่
จะทํ
าให
รู
ได
ว
า เด็
กนั
กเรี
ยนคนใดมี
ความสามารถพิ
เศษทางคณิ
ตศาสตร
หรื
อไม
และมี
อยู
ในระดั
บใด จํ
าเป
นที่
จะต
องใช
เครื่
องมื
อวั
ดที่
มี
คุ
ณภาพและได
มาตรฐาน จากจุ
ดเน
นของแผนการศึ
กษาแห
งชาติ
และพระราชบั
ญญั
ติ
การศึ
กษาแห
งชาติ
พ.ศ. 2542 ได
บั
ญญั
ติ
ไว
ใน
มาตรา 10 วรรคสี่
ว
า “การจั
ดการศึ
กษาสํ
าหรั
บบุ
คคลซึ่
งมี
ความสามารถพิ
เศษ ต
องจั
ดด
วยรู
ปแบบที่
เหมาะสมโดย
คํ
านึ
งถึ
งความสามารถของบบุ
คคลนั้
น” รวมไปถึ
งบทบาทสํ
าคั
ญของวิ
ชาคณิ
ตศาสตร
ซึ่
งมี
ความสํ
าคั
ญยิ่
งในป
จจุ
บั
ผู
วิ
จั
ยจึ
งมี
ความสนใจที่
จะพั
ฒนาเครื่
องมื
อที่
มี
คุ
ณภาพเพื่
อวั
ดคุ
ณลั
กษณะเด็
กที่
มี
ความสามารถพิ
เศษทางคณิ
ตศาสตร
ใน
ระดั
บชั
นมั
ธยมศึ
กษาป
ที่
3 ในจั
งหวั
ดสงขลา
วิ
ธี
ดํ
าเนิ
นการศึ
กษาค
นคว
1. ประชากรและกลุ
มตั
วอย
าง
ประชากรที่
ใช
ในการพั
ฒนาเครื่
องมื
อเป
นนั
กเรี
ยนระดั
บชั้
นมั
ธยมศึ
กษาป
ที่
3 โรงเรี
ยนมั
ธยมศึ
กษา ป
การศึ
กษา 2549 สั
งกั
ดสํ
านั
กงานเขตพื้
นที่
การศึ
กษา จั
งหวั
ดสงขลา จํ
านวน 9,909 คน (สํ
านั
กงานเขตพื้
นที่
การ ศึ
กษา
จั
งหวั
ดสงขลา. 2549) กลุ
มตั
วอย
างที่
ใช
ในการพั
ฒนาเครื่
องมื
อเป
นนั
กเรี
ยนระดั
บชั้
นมั
ธยมศึ
กษาป
ที่
3 โรงเรี
ยน
มั
ธยมศึ
กษา ป
การศึ
กษา 2549 สั
งกั
ดสํ
านั
กงานเขตพื้
นที่
การศึ
กษา จั
งหวั
ดสงขลา จํ
านวน 826 คน โดยวิ
ธี
สุ
มแบบ
หลายขั้
นตอน (multi – stage random sampling)
2. เครื่
องมื
อที่
ใช
ในการศึ
กษาค
นคว
เครื่
องมื
อที่
พั
ฒนาครั้
งนี้
เป
นเครื่
องมื
อวั
ดความสามารถพิ
เศษทางคณิ
ตศาสตร
มี
จํ
านวน 5 ฉบั
บ ดั
งนี้
ฉบั
บที่
1 แบบทดสอบวั
ดความสามารถในการจํ
า จํ
านวน 10 ข
อ มี
ลั
กษณะเป
นแบบเติ
มคํ
า ฉบั
บที่
2 แบบทดสอบวั
ความคิ
ดสร
างสรรค
จํ
านวน 5 ข
อ มี
ลั
กษณะเป
นแบบเขี
ยนตอบ ฉบั
บที่
3 แบบทดสอบวั
ดความคิ
ดวิ
จารณญาณ
จํ
านวน 30 ข
อ มี
ลั
กษณะแบบเลื
อกตอบ ฉบั
บที่
4 แบบทดสอบวั
ดความสามารถในการคิ
ดแก
ป
ญหา จํ
านวน 5 ข
อ มี
ลั
กษณะเป
นแบบเขี
ยนตอบ ฉบั
บที่
5 แบบวั
ดความสนใจในการรวบรวมความรู
ทางคณิ
ตศาสตร
จํ
านวน 30 ข
อ มี
ลั
กษณะเป
นมาตราวั
ดเจตคติ
5 ระดั
บของลิ
เคิ
ร
1...,548,549,550,551,552,553,554,555,556,557 559,560,561,562,563,564,565,566,567,568,...702
Powered by FlippingBook