2
(ก) ลั
กษณะของสวนปาล
มน้ํ
ามั
น อายุ
ประมาณ 10 ป
(ข) ลั
กษณะของต
นปาล
มน้ํ
ามั
น อายุ
32 ป
บทนํ
า
ปาล
มน้ํ
ามั
นเป
นพื
ชน้ํ
ามั
นอุ
ตสาหกรรมที่
มี
ความสํ
าคั
ญทางเศรษฐกิ
จทั้
งในระดั
บโลก และประเทศไทย
ทั้
งนี้
เนื่
องจากปาล
มน้ํ
ามั
นเป
นพื
ชชนิ
ดเดี
ยวที่
ให
ผลผลิ
ตน้ํ
ามั
นต
อ
หน
วยพื้
นที่
มากกว
าพื
ชน้ํ
ามั
นอื่
น ๆ ทุ
กชนิ
ด และสามารถผลิ
ตได
เฉพาะในพื้
นที่
จํ
ากั
ดประเภทร
อนชื้
นเท
านั
้
น ซึ่
งมี
เพี
ยง 42
ประเทศ จาก 223 ประเทศทั่
วโลกที่
สามารถปลู
กได
แต
มี
เพี
ยงไม
กี่
ประเทศเท
านั้
นที่
สามารถปลู
กปาล
มได
ผลดี
เช
นมาเลเชี
ย
อิ
นโดนิ
เชี
ย โคลั
มเบี
ย และไทย เป
นต
น สํ
าหรั
บประเทศไทย ปาล
มน้ํ
ามั
นได
ถู
กนํ
าเข
ามาปลู
กในภาคใต
เมื่
อประมาณ 40 ป
ที่
ผ
านมาและมี
การขยายพื้
นที่
การเพาะปลู
กจนในป
จจุ
บั
น จากข
อมู
ลแผนพั
ฒนาอุ
ตสาหกรรมปาล
มน้ํ
ามั
นและน้ํ
ามั
นปาล
มป
2551-2555 พบว
าในประเทศไทยมี
การปลู
กปาล
มน้ํ
ามั
นเพื่
อการพาณิ
ชย
ประมาณ 4 ล
านไร
อายุ
ของต
นปาล
มน้ํ
ามั
นที่
เริ่
มให
ผลผลิ
ตจะอยู
ที่
2–3 ป
(จรู
ญ เจริ
ญเนตรกุ
ล. 2550). ชาวสวนสามารถเก็
บผลผลิ
ตได
ไป
จนหมดอายุ
ของต
นปาล
มน้ํ
ามั
น ซึ่
งอยู
ที่
ประมาณ 25-30 ป
ดั
งภาพที่
1(ข) ซึ่
งหลั
งจากนี้
ต
นปาล
มน้ํ
ามั
นจะให
ผลผลิ
ตน
อยลง
ชาวสวนจึ
งต
องตั
ดต
นปาล
มน้ํ
ามั
นที่
มี
อายุ
มากทิ้
ง เพื่
อที่
จะปลู
กต
นปาล
มน้ํ
ามั
นรุ
นต
อไป ซึ่
งต
นปาล
มน้ํ
ามั
นที่
ถู
กตั
ดทิ้
งนี้
ไม
ได
นํ
าไปใช
ประโยชน
อย
างใดเลย นอกจากทํ
าปุ
ยหมั
ก
ผู
ทํ
าการวิ
จั
ยจึ
งเล็
งเห็
นว
า ไม
ปาล
มน้ํ
ามั
นมี
ปริ
มาณมากรั
ฐบาลมี
นโยบายสนั
บสนุ
นให
เพิ่
มพื้
นที่
การปลู
กปาล
ม หากนํ
า
ไม
ปาล
มน้ํ
ามั
นมาทดสอบหาคุ
ณสมบั
ติ
การรั
บแรงของไม
ปาล
มน้ํ
ามั
นแล
วนํ
าข
อมู
ลที่
ได
เป
นข
อมู
ลพื้
นฐานที่
ได
นํ
าไปหา
แนวทางในการนํ
าไม
ปาล
มมาใช
ให
เกิ
ดประโยชน
ลั
กษณะทางพฤกษศาสตร
ปาล
มน้ํ
ามั
น มี
ลั
กษณะลํ
าต
นเป
นต
นเดี่
ยวตั้
งตรงรู
ปร
างทรงกระบอกมี
เนื้
อเยื่
อเจริ
ญเฉพาะตรงปลายยอด 2-3 ป
แรก จะ
ช
วยในการเจริ
ญเติ
บโตทางด
านกว
างจากนั้
นแล
วจึ
งจะมี
การเจริ
ญทางด
านการสู
งเรื่
อย ๆ ความสู
งประมาณ 20-30 เมตร ลํ
าต
น
มี
ข
อสั้
น ๆ เป
นที่
เกิ
ดของใบ เส
นผ
านศู
นย
กลางของลํ
าต
นประมาณ 50-60 ซม. เวลาตั
ดทางใบจะเห็
นตอใบเวี
ยนรอบต
น ต
นที่
มี
อายุ
มากเมื่
อใบร
วงหล
นเองลํ
าต
นจะเรี
ยบ ดั
งภาพที่
3 (ก)
ทางใบ จะมี
การสร
างประมาณเดื
อนละ 2 ทาง ทางใบจะประกอบด
วยแกนทางใบ ที่
ริ
มทั้
งสองข
างมี
หนาม ใบย
อย
(leaflet) เรี
ยงอยู
ในลั
กษณะสองระดั
บเหลื่
อมกั
นอย
างเป
นระเบี
ยบในแต
ละข
างของแกนทางใบ
ภาพที่
1
ลั
กษณะของสวนปาล
มน้ํ
ามั
น