เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 279
3
เปลื
อก
เสี้
ยนไม
ไส
ไม
กะพี้
ไม
กะพี้
ไม
เส
นวงป
แก
นไม
ไส
ไม
เปลื
อก
(ก) ภาพตั
ดขวางของลํ
าต
นไม
ปาล
มน้ํ
ามั
น
(ข) ภาพตั
ดขวางของพื
ชใบเลี้
ยงคู
ลั
กษณะของไม
ปาล
มน้ํ
ามั
น
ปาล
มน้ํ
ามั
นมี
การเติ
บโตในทางแนวยาวขึ้
นเรื่
อย ๆ การเติ
บโตทางด
านข
างมี
น
อยมาก ลั
กษณะของเนื้
อไม
จะมี
เส
นใย (Vascular) ซึ่
งจะมี
ความแข็
งและสี
ที่
เข
มตามอายุ
และจะมี
จํ
านวนเส
นใยมากบริ
เวณกระพี้
ของลํ
าต
น โดยจะมี
จํ
านวนเส
นใยค
อย ๆ ลดลงเรื่
อย ๆ จนบริ
เวณไส
ไม
ปาล
มน้ํ
ามั
นมี
ลํ
าต
นขึ้
นตรง ไม
มี
การแตกกิ่
งก
านสาขาเหมื
อน
ต
นไม
ชนิ
ดอื่
น และไม
มี
ตาไม
ซึ่
งเป
นตํ
าหนิ
ของไม
ดั
งภาพที่
2 (ก) และภาพที่
3 (ข) สิ่
งเหล
านี้
แตกต
างกั
บพื
ชใบเลี้
ยงคู
ทั่
วไปซึ่
งจะมี
ลั
กษณะที่
สํ
าคั
ญดั
งนี้
เส
นวงป
แสดงความเจริ
ญเติ
บโตของไม
ไส
ไม
อยู
บริ
เวณกลางลํ
าต
นส
วนนี้
จะไม
นํ
ามาใช
ในการก
อสร
าง แก
นไม
เป
นส
วนไม
ที่
มี
คุ
ณสมบั
ติ
เชิ
งกลที่
ดี
กะพี้
ไม
มี
สี
ที่
อ
อนกว
าไม
แก
น เป
นส
วนของเซลล
ที่
ยั
งคงทํ
างานลํ
าเลี
ยงและสะสมอาหาร และเปลื
อกไม
ดั
งแสดงในภาพที่
2 (ข)
ภาพที่
2
ภาพตั
ดขวางของไม
ปาล
มน้ํ
ามั
นพื
ชใบเลี้
ยงคู
และ
ภาพที่
3
ภาพลํ
าต
น และภาพตั
ดขวางของลํ
าต
นส
วนล
างต
นปาล
มน้ํ
ามั
น
(ก) ลั
กษณะลํ
าต
น
(ข) ภาพตั
ดขวางของลํ
าต
น
1...,269,270,271,272,273,274,275,276,277,278
280,281,282,283,284,285,286,287,288,289,...1102