4
การวิ
เคราะห
ข
อมู
ล ผู
วิ
จั
ยได
ทํ
าการรวบรวมแบบสอบถาม โดยใช
สถิ
ติ
การวิ
เคราะห
ดั
งนี้
1. การวิ
เคราะห
สถานภาพของผู
ตอบแบบสอบถาม แจกแจงความถี่
/การคํ
านวณค
าร
อยละ
2. การศึ
กษาระดั
บพฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
าของผู
บริ
หารและระดั
บสภาพการดํ
าเนิ
นงานของโรงเรี
ยนวิ
ถี
พุ
ทธ ใช
ค
าเฉลี่
ย และส
วนเบี่
ยงเบนมาตรฐาน (บุ
ญชม ศรี
สะอาด. 2545 : 104-107)
3. การวิ
เคราะห
หาพฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
าของผู
บริ
หารที่
ส
งผลต
อสภาพการดํ
าเนิ
นงานของโรงเรี
ยนวิ
ถี
พุ
ทธ ใช
การวิ
เคราะห
การทดถอยพหุ
คู
ณ (Multiple regression analysis) แบบขั้
นตอน (Stepwise) โดยใช
โปรแกรมสํ
าเร็
จรู
ป
(กั
ลยา วานิ
ชย
บั
ญชา. 2549 : 354)
ผลการวิ
จั
ยและอภิ
ปรายผลการวิ
จั
ย
ผลการวิ
จั
ย
1. ผลการวิ
เคราะห
ระดั
บพฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
าของผู
บริ
หารโรงเรี
ยนวิ
ถี
พุ
ทธ สํ
านั
กงานเขตพื้
นที่
การศึ
กษา
นครราชสี
มา ภาพรวมมี
การปฏิ
บั
ติ
อยู
ในระดั
บมาก (
X
= 4.14, S.D.= 0.22) เมื่
อพิ
จารณารายพฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
า
พบว
า มี
ระดั
บการปฏิ
บั
ติ
ในระดั
บมากทั้
ง 4 แบบ โดยพฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
าแบบมี
ส
วนร
วม มากที่
สุ
ด (
X
= 4.21, S.D.=
0.25) รองลงมา คื
อ พฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
าแบบสนั
บสนุ
น (
X
= 4.18, S.D.= 0.29) พฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
าแบบนํ
าทาง(
X
=
4.15, S.D.= 0.24) และพฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
าแบบมุ
งความสํ
าเร็
จ มี
การปฏิ
บั
ติ
น
อยที่
สุ
ด (
X
= 4.01, S.D.= 0.22)
2. ผลการวิ
เคราะห
ระดั
บปฏิ
บั
ติ
สภาพการดํ
าเนิ
นงานโรงเรี
ยนวิ
ถี
พุ
ทธ สํ
านั
กงานเขตพื้
นที่
การศึ
กษา
นครราชสี
มา ภาพรวมมี
การปฏิ
บั
ติ
อยู
ในระดั
บมาก (
X
= 4.34, S.D.= 0.23) เมื่
อพิ
จารณารายด
านทั้
ง 4 ด
าน พบว
า มี
ระดั
บการปฏิ
บั
ติ
ในระดั
บมากทุ
กด
าน โดยด
านที่
มี
การปฏิ
บั
ติ
มากที่
สุ
ด คื
อ ด
านผลผลิ
ต (
X
= 4.42, S.D.= 0.23)
รองลงมามี
ค
าเฉลี่
ยเท
ากั
น คื
อ ด
านกระบวนการ ด
านป
จจั
ยนํ
าเข
า (
X
= 4.34, S.D.= 0.25) และ(
X
= 4.34, S.D.= 0.20)
ตามลํ
าดั
บ ส
วนด
านที่
มี
การปฏิ
บั
ติ
น
อยที่
สุ
ด คื
อ ด
านผลกระทบ (
X
= 4.26, S.D.= 0.31)
3. ผลการวิ
เคราะห
ความสั
มพั
นธ
ระหว
างพฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
าของผู
บริ
หารโรงเรี
ยนวิ
ถี
พุ
ทธกั
บสภาพการ
ดํ
าเนิ
นงานโรงเรี
ยนวิ
ถี
พุ
ทธ สํ
านั
กงานเขตพื้
นที่
การศึ
กษานครราชสี
มา พฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
ามี
อิ
ทธิ
พลร
วมกั
นต
อสภาพ
การดํ
าเนิ
นงานโรงเรี
ยนวิ
ถี
พุ
ทธ อยู
ในระดั
บปานกลาง อย
างมี
นั
ยสํ
าคั
ญทางสถิ
ติ
ที่
ระดั
บ .05
4. ผลการวิ
เคราะห
พฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
าของผู
บริ
หารที่
ส
งผลต
อสภาพการดํ
าเนิ
นงานโรงเรี
ยนวิ
ถี
พุ
ทธ
สํ
านั
กงานเขตพื้
นที่
การศึ
กษานครราชสี
มา พฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
าทั้
ง 4 แบบมี
อิ
ทธิ
พลร
วมกั
นต
อสภาพการดํ
าเนิ
นงาน
โรงเรี
ยนวิ
ถี
พุ
ทธ อยู
ในระดั
บปานกลาง อย
างมี
นั
ยสํ
าคั
ญทางสถิ
ติ
ที่
ระดั
บ .05 โดยพฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
าที่
มี
อิ
ทธิ
พลสู
งสุ
ด
คื
อ พฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
าแบบมี
ส
วนร
วม รองลงมา คื
อ พฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
าแบบนํ
าทาง ตามลํ
าดั
บ ค
าสั
มประสิ
ทธิ์
สหสั
มพั
นธ
พหุ
คู
ณระหว
างพฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
ากั
บสภาพการดํ
าเนิ
นงานโรงเรี
ยนวิ
ถี
พุ
ทธเป
น 0.663 สมการถดถอยที่
ดี
ที่
สุ
ด คื
อ Y =
1.391
+ 0.501 X
4
+ 0.203 X
1
เมื่
อ Y แทน สภาพการดํ
าเนิ
นงานโรงเรี
ยนวิ
ถี
พุ
ทธ, X
4
แทน พฤติ
กรรม
ภาวะผู
นํ
าแบบมี
ส
วนร
วมและ X
1
แทน พฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
าแบบนํ
าทาง และพฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
าเหล
านี้
สามารถอธิ
บาย
ความแปรปรวนสภาพการดํ
าเนิ
นงานโรงเรี
ยนวิ
ถี
พุ
ทธได
ร
อยละ 44.00
อภิ
ปรายผลการวิ
จั
ย
1. จากผลการวิ
เคราะห
ระดั
บพฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
าของผู
บริ
หารโรงเรี
ยนวิ
ถี
พุ
ทธ ภาพรวมมี
การปฏิ
บั
ติ
อยู
ใน
ระดั
บมาก คื
อ พฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
าแบบมี
ส
วนร
วม รองลงมา คื
อ พฤติ
กรรมภาวะผู
นํ
าแบบสนั
บสนุ
น แสดงว
า ผู
บริ
หาร