full2010.pdf - page 1638

1600
‡Î
µœÎ
µ
ตามพระราชบั
ญญั
ติ
การศึ
กษาแห
งชาติ
พ.ศ.2542 มี
แนวนโยบายในการปฏิ
รู
ปการศึ
กษา เป
นการปฏิ
รู
ระบบบริ
หารจั
ดการ ปฏิ
รู
ปหลั
กสู
ตรปฏิ
รู
ปการเรี
ยนสอนและพั
ฒนาวิ
ชาชี
พครู
และบุ
คลากรทางการศึ
กษา โดยมี
ยุ
ทธศาสตร
ที่
สํ
าคั
ญ คื
อ วิ
ธี
การกระจายอํ
านาจ การมี
ส
วนร
วมการใช
แผนยุ
ทธศาสตร
การประกั
นคุ
ณภาพการศึ
กษา
และเน
นผู
เรี
ยนเป
นศู
นย
กลางซึ่
งมาตรา 22 มี
หลั
กการจั
ดการศึ
กษาต
องยึ
ดหลั
ก ผู
เรี
ยนทุ
กคนมี
ความสามารถในการ
เรี
ยนรู
และพั
ฒนาตนเองได
และผู
เรี
ยนมี
ความสํ
าคั
ญที่
สุ
ด กระบวนการศึ
กษาต
องส
งเสริ
มให
ผู
เรี
ยนสามารถพั
ฒนา
ตามธรรมชาติ
และเต็
มตามศั
กยภาพ ถื
อได
ว
าเป
นกฎหมายว
าด
วยการศึ
กษาแห
งชาติ
ต
องการให
ผู
เรี
ยนมี
คุ
ณลั
กษณะดี
เก
ง และมี
ความสุ
ข และได
กํ
าหนดให
มี
ระบบการประกั
นคุ
ณภาพการศึ
กษาในทุ
กโรงเรี
ยนซึ่
งได
กํ
าหนดมาตรฐาน
ด
านผลผลิ
ตมาตรฐานที่
3 คื
อ การเป
นบุ
คคลแห
งการเรี
ยนรู
ส
งเสริ
มให
นั
กเรี
ยนมี
นิ
สั
ยรั
กการอ
านการค
นคว
า รู
จั
แสวงหาความรู
ด
วยตนเอง การรู
จั
กใช
เวลาว
างให
เกิ
ดประโยชน
มี
ความกระตื
อรื
อร
นในการศึ
กษาค
นคว
า โรงเรี
ยน
เทศบาลวั
ดท
าวโคตร ได
ตระหนั
กและเห็
นคุ
ณค
าของการส
งเสริ
มให
นั
กเรี
ยนมี
ความใฝ
รู
ใฝ
เรี
ยน มี
นิ
สั
ยรั
กการอ
าน
และเป
นบุ
คคลแห
งการเรี
ยนรู
และให
นั
กเรี
ยนอยู
ที่
โรงเรี
ยนอย
างมี
ความสุ
ข จึ
งได
จั
ดให
มี
การพั
ฒนาคุ
ณลั
กษณะด
าน
การอ
านขึ้
นเพื่
อให
นั
กเรี
ยนมี
ศั
กยภาพในการอ
าน มี
เจตคติ
ที่
ดี
ต
อการอ
านและใช
เวลาว
างให
เกิ
ดประโยชน
โดยจั
กิ
จกรรมส
งเสริ
มการอ
านอย
างต
อเนื่
องจั
ดบรรยากาศที่
ดี
ในห
องสมุ
ด จั
ดห
องสุ
มดเคลื่
อนที่
เพื่
อจู
งใจให
นั
กเรี
ยนรั
กการ
อ
านให
สู
งขึ้
หลั
กสู
ตรแกนกลางการศึ
กษาขั้
นพื้
นฐาน พุ
ทธศั
กราช 2551 กล
าวว
า ในระดั
บประถมศึ
กษาโรงเรี
ยนมุ
พั
ฒนาผู
เรี
ยนให
มี
คุ
ณลั
กษณะอั
นพึ
งประสงค
เพื่
อให
สามารถอยู
ร
วมกั
บผู
อื่
นในสั
งคมได
อย
างมี
ความสุ
ข ในฐานะเป
พลเมื
องไทยและพลโลก ดั
งนี้
(
พระราชบั
ญญั
ติ
การศึ
กษาชาติ
,
2551
)
1. รั
กชาติ
ศาสน
กษั
ตริ
ย
2. ซื่
อสั
ตย
สุ
จริ
3. มี
วิ
นั
4. ใฝ
เรี
ยนรู
5. อยู
อย
างพอเพี
ยง
6. มุ
งมั่
นในการทํ
างาน
7. รั
กความเป
นไทย
8. มี
จิ
ตสาธารณะ
ซึ่
งการรั
กการอ
านอยู
ในข
อที่
4 คื
อ ใฝ
เรี
ยนรู
ซึ่
งเป
นคุ
ณลั
กษณะอั
นพึ
งประสงค
ที่
มี
ความสํ
าคั
ญมาก ถื
อได
ว
เป
นพื
นฐานในการดํ
าเนิ
นชี
วิ
ตในสั
งคม ส
งเสริ
มให
นั
กเรี
ยนมี
นิ
สั
ยรั
กการอ
านการค
นคว
า รู
จั
กแสวงหาความรู
ด
วย
ตนเอง การรู
จั
กใช
เวลาว
างให
เกิ
ดประโยชน
มี
ความกระตื
อรื
อร
นในการศึ
กษาค
นคว
า โรงเรี
ยนเทศบาล
วั
ดท
าวโคตร ได
ตระหนั
กและเห็
นคุ
ณค
าของการส
งเสริ
มให
นั
กเรี
ยนมี
ความใฝ
รู
ใฝ
เรี
ยน มี
นิ
สั
ยรั
กการอ
าน และเป
บุ
คคลแห
งการเรี
ยนรู
และที่
สํ
าคั
ญให
นั
กเรี
ยน มี
ความสุ
ขอยู
ในโรงเรี
ยน จึ
งได
จั
ดทํ
าวิ
จั
ยเรื่
องนี้
ขึ้
น เพื่
อให
นั
กเรี
ยนได
พั
ฒนาศั
กยภาพในการอ
าน มี
เจตคติ
ที่
ดี
ต
อการอ
าน ใช
เวลาว
างในการอ
านเพื่
อให
เกิ
ดความรู
และความ
เพลิ
ดเพลิ
น สามารถนํ
าความรู
ที่
ได
จากการอ
านไปใช
ในชี
วิ
ตประจํ
าวั
นได
และเพื่
อยกระดั
บคุ
ณลั
กษณ
อั
นพึ
ประสงค
ด
านรั
กการอ
าน ของนั
กเรี
ยนโรงเรี
ยนเทศบาลวั
ดท
าวโคตรให
สู
งขึ้
1...,1628,1629,1630,1631,1632,1633,1634,1635,1636,1637 1639,1640,1641,1642,1643,1644,1645,1646,1647,1648,...2023
Powered by FlippingBook