1601
°»
¦r
¨³ª·
¸
µ¦
ª´
»
¦³r
µ¦ª·
´
¥
1. ยกระดั
บคุ
ณลั
กษณ
อั
นพึ
งประสงค
ด
านรั
กการอ
าน ของนั
กเรี
ยนโรงเรี
ยนเทศบาลวั
ดท
าวโคตรให
สู
งขึ้
น
·
¥µ¤«´
¡r
Á¡µ³
»
¨´
¬r
°´
¡¹
¦³r
o
µ¦´
µ¦°n
µ
หมายถึ
ง พฤติ
กรรมที่
นั
กเรี
ยนแสดงออกเมื่
อมี
เวลาว
างจากการ
เรี
ยนในชั้
นเรี
ยน ในห
องเรี
ยน ช
วงพั
กกลางวั
น เช
น การอ
านหนั
งสื
อ ทํ
าการบ
าน เขี
ยนหนั
งสื
อ เล
น และเขี
ยนอื่
นๆ
¨»n
¤Áj
µ®¤µ¥
นั
กเรี
ยนโรงเรี
ยนเทศบาลวั
ดท
าวโคตร ภาคเรี
ยนที่
2 ป
การศึ
กษา 2552 จํ
านวน 554 คน
ª¦¦¦¦¤¸É
Á¸É
¥ª
o
°
ทวี
ศั
กดิ์
เดชาเลิ
ศ (2528) ศึ
กษาองค
ประกอบที่
สั
มพั
นธ
กั
บนิ
สั
ยรั
กการอ
านของนั
กเรี
ยนชั้
นมั
ธยมศึ
กษาป
ที่
1
ในกรุ
งเทพมหานคร การวิ
จั
ยพบว
า เด็
กที่
ได
รั
บประสบการณ
การส
งเสริ
มการอ
านจากทางบ
าน เป
นองค
ประกอบที่
มี
ความสั
มพั
นธ
กั
บนิ
สั
ยรั
กการอ
านของนั
กเรี
ยนสู
งสุ
ด มี
แนวโน
มจะเป
นผู
ที่
มี
นิ
สั
ยรั
กการอ
านมาก
อั
งคณา กล
อมฤทธิ์
(2552) ศึ
กษาความอยากรู
อยากเห็
น นิ
สั
ยรั
กการอ
าน และคุ
ณสมบั
ติ
ส
วนตั
วบาง
ประการของนั
กเรี
ยนที่
เข
าใช
ห
องสมุ
ดมาก และนั
กเรี
ยนที่
เข
าใช
ห
องสมุ
ดน
อย การวิ
จั
ยพบว
า กลุ
มนั
กเรี
ยนที่
เข
าใช
ห
องสมุ
ดมาก มี
ความอยากรู
อยากเห็
นไม
แตกต
างจากนั
กเรี
ยนที่
เข
าใช
ห
องสมุ
ดน
อย แต
มี
นิ
สั
ยรั
กการอ
านมากกว
า
กลุ
มนั
กเรี
ยนที่
เข
าห
องสมุ
ดน
อย
ศิ
ริ
พร ทองชู
ดํ
า (2540) วิ
จั
ยความสั
มพั
นธ
ระหว
างการมี
ส
วนร
วมในกิ
จกรรมส
งเสริ
มการอ
านกั
บนิ
สั
ยใน
การอ
านของนั
กเรี
ยนชั้
นประถมศึ
กษาป
ที่
6 ในจั
งหวั
ดพั
ทลุ
ง
Á¦ºÉ
°¤º
°¸É
Äo
ĵ¦ª·
´
¥
1. ÂÎ
µ¦ªµ¦¦´
µ¦°n
µ ´
Á¡§·
¦¦¤ ¨³Â´
¤£µ¬r
¹É
æ¦o
µ
ดํ
าเนิ
นการสร
างและ
หาประสิ
ทธิ
ภาพ ดั
งนี้
กํ
าหนดกรอบและแยกเป
นประเด็
น เช
น ทํ
าการบ
าน อ
านหนั
งสื
อ เขี
ยนหนั
งสื
อ เล
น และ
เขี
ยนอื่
นๆ โดยให
ผู
ทรงคุ
ณวุ
ฒิ
ตรวจสอบ ปรั
บปรุ
ง และจั
ดสร
าง เพื่
อนํ
าไปใช
ในการทดลอง
2. µ¦´
¹
£µ¡·É
3. 廫
¨´
¬³·
´
¥¦´
µ¦°n
µ
° µµª·
¨µ °µ¦¸
¥r
´
·
´
¥
( จิ
ตลดา อารี
ย
สั
นติ
ชั
ย
,
2547)
ซึ่
งประกอบด
วย
3
ฉบั
บ คื
อ
ฉบั
บที่
1 วั
ดความสนใจใฝ
รู
ในการอ
าน มี
ความอํ
านาจจํ
าแนก 2.876-7.528 ความเชื่
อมั่
น 0.75
ฉบั
บที่
2 วั
ดความสนใจใฝ
รู
ในการอ
าน มี
ความอํ
านาจจํ
าแนก 2.048-5.819 ความเชื
่
อมั่
น 0.73
ฉบั
บที่
3 วั
ดเจตคติ
ต
อการอ
าน มี
ความอํ
านาจจํ
าแนก
2.815-6.327
ความเชื่
อมั่
น
0.71
µ¦ÁÈ
¦ª¦ª¤
o
°¤¼
¨
1. สํ
ารวจและประเมิ
นระดั
บคุ
ณลั
กษณ
อั
นพึ
งประสงค
รั
กการอ
านก
อนการทดลอง โดยสํ
ารวจนั
กเรี
ยนทุ
ก
ห
องในช
วงพั
กกลางวั
นทุ
กวั
นของสั
ปดาห
แรก โดยนั
บจํ
านวนนั
กเรี
ยนที่
ทํ
ากิ
จกรรมแต
ละกิ
จกรรม หาค
าร
อยละ
เมื่
อเที
ยบนั
กเรี
ยนทั้
งหมดในห
อง หาค
าเฉลี่
ยตลอดสั
ปดาห
แปรผลเป
นระดั
บรั
กการอ
าน โดยใช
เกณฑ
ดี
มาก
(ร
อยละ 80-100) ดี
(ร
อยละ70-79) ปานกลาง(ร
อยละ50-69) น
อย(ร
อยละ30-49) และน
อยมาก(ร
อยละ0-29)
2. ดํ
าเนิ
นการจั
ดกิ
จกรรมที่
ส
งเสริ
มการรั
กการอ
านตามแผนปฏิ
บั
ติ
งาน สํ
ารวจพฤติ
กรรมรั
กการอ
าน สั
งเกต
เก็
บข
อมู
ล 5 ครั้
ง ห
างกั
นครั้
งละ 2 สั
ปดาห
ตลอดภาคเรี
ยนที่
2/2552