full2010.pdf - page 1702

1664
6. ด
านหลั
กสู
ตรการศึ
กษา พบว
าในภาพรวมนั
กศึ
กษาทั้
งสองกลุ
มมี
ความคิ
ดเห็
นไม
แตกต
าง
กั
น แต
หากเปรี
ยบเที
ยบความแตกต
างระหว
างกลุ
มและรายข
อ จะพบว
ามี
ความคิ
ดเห็
นแตกต
างกั
นที่
ระดั
บนั
ยสํ
าคั
ญ .05 ได
แก
คิ
ดว
ามี
การบ
าน/รายงาน ในแต
ละรายวิ
ชามากเกิ
นไป ซึ่
งนั
กศึ
กษาที่
มี
ผลการ
เรี
ยนอยู
ในภาวะปกติ
มี
ความคิ
ดเห็
นในข
อนี้
สู
งกว
านั
กศึ
กษาที่
มี
ผลการเรี
ยนอยู
ในภาวะรอพิ
นิ
จ โดยคิ
ว
ามี
ผลต
อการเรี
ยนในระดั
บปานกลาง อาจเป
นเพราะว
านั
กศึ
กษาที่
มี
ผลการเรี
ยนภาวะปกติ
มี
ความ
กั
งวลต
อการเรี
ยน จึ
งคิ
ดว
าการที่
มี
การบ
าน/รายงานมาก นั
กศึ
กษาต
องใช
เวลาในการค
นคว
าหาข
อมู
ซึ่
งอาจจะเป
นผลดี
กั
บนั
กศึ
กษา ทํ
าให
นั
กศึ
กษาสามารถทบทวนการเรี
ยนได
มากกว
านั
กศึ
กษาที่
มี
ภาวะ
รอพิ
นิ
จที่
ไม
กั
งวลเรื่
องการเรี
ยน และไม
สนใจในการทํ
าการบ
าน/รายงาน
7. ด
านบรรยากาศการเรี
ยนการสอน
พบว
าในภาพรวมนั
กศึ
กษาทั้
งสองกลุ
มมี
ความคิ
ดเห็
ไม
แตกต
างกั
น โดยคิ
ดว
าอุ
ปกรณ
การเรี
ยนการสอน/ห
องเรี
ยน มี
ความเหมาะสม มี
ผลต
อการเรี
ยนสู
ที่
สุ
ด รองลงมาคื
อคิ
ดว
าการสอนของอาจารย
มี
ความน
าสนใจ ส
วนในข
อที่
คิ
ดว
าแหล
งค
นคว
าหาข
อมู
มี
เพี
ยงพอ มี
ผลต
อการเรี
ยนน
อยที่
สุ
8. ด
านสภาพแวดล
อมภายในภาควิ
ชา พบว
าในภาพรวมและรายข
อนั
กศึ
กษาทั้
งสองกลุ
มมี
ความคิ
ดเห็
นแตกต
างกั
น ที่
ระดั
บนั
ย สํ
าคั
ญ .05 โดยมี
ผลสั
มฤทธิ์
ทางการเรี
ยนในระดั
บมาก ได
แก
คิ
ว
าเจ
าหน
าภาควิ
ชาฯ มี
ความเอาใจใส
และมี
ความสะดวกในการติ
ดต
อภาควิ
ชาฯ ผ
านทางเจ
าหน
าที่
โดยพบว
านั
กศึ
กษาที่
มี
ผลการเรี
ยนอยู
ในภาวะรอพิ
นิ
จมี
ความคิ
ดเห็
นในข
อนี้
สู
งกว
านั
กศึ
กษาที่
มี
ผลการ
เรี
ยนอยู
ในภาวะปกติ
อาจเป
นเพราะว
านั
กศึ
กษาที่
มี
ผลการเรี
ยนภาวะรอพิ
นิ
จมี
การติ
ดต
อกั
บภาควิ
ชาฯ
บ
อยกว
านั
กศึ
กษาที่
มี
ผลการเรี
ยนภาวะปกติ
เนื่
องจากสํ
านั
กงานภาควิ
ชาฯ เป
นจุ
ดศู
นย
กลางในการ
ติ
ดต
อ และเจ
าหน
าที่
ภาควิ
ชาฯ เป
นคนประสานงานระหว
างอาจารย
นั
กศึ
กษา และผู
ปกครอง หรื
นั
กศึ
กษาติ
ดต
ออาจารย
เพื่
อยื่
นคํ
าร
องต
าง ๆ และให
อาจารย
อนุ
ญาตการลงทะเบี
ยน ทํ
าให
นั
กศึ
กษามี
การพบปะกั
บเจ
าหน
าที่
มากกว
าปกติ
สํ
าหรั
บข
อที่
คิ
ดว
านั
กศึ
กษาทุ
กชั้
นป
มี
ความช
วยเหลื
อซึ่
งกั
นและ
กั
น พบว
านั
กศึ
กษาที่
มี
ผลการเรี
ยนอยู
ในภาวะรอพิ
นิ
จ มี
ความคิ
ดเห็
นในหั
วข
อนี้
สู
งกว
านั
กศึ
กษาที่
มี
ผล
การเรี
ยนอยู
ในภาวะปกติ
อาจเป
นเพราะว
านั
กศึ
กษาภาควิ
ชาวิ
ศวกรรมเครื่
องกลมี
กิ
จกรรมต
าง ๆ ทํ
ร
วมกั
นมากกว
าภาควิ
ชาอื่
น ๆ ทํ
าให
นั
กศึ
กษาเกิ
ดความสามั
คคี
และมี
การช
วยเหลื
อซึ่
งกั
นและกั
น ทั้
ด
านการเรี
ยนและการทํ
ากิ
จกรรมต
าง ๆ
9. ด
านกิ
จกรรมต
างๆ ของภาควิ
ชา พบว
ากลุ
มนั
กศึ
กษาทั้
งสองกลุ
ม มี
ความคิ
ดเห็
นไม
แตกต
างกั
น มี
ความเห็
นว
ามี
ผลต
อการเรี
ยนในระดั
บมาก แต
หากเปรี
ยบเที
ยบความแตกต
างระหว
าง
กลุ
มและรายข
อ จะพบว
ามี
ความคิ
ดเห็
นแตกต
างกั
นที่
ระดั
บนั
ยสํ
าคั
ญ .05 ในข
อคิ
ดว
าจํ
านวนกิ
จกรรม
ที่
ภาควิ
ชาฯ จั
ดมี
จํ
านวนเหมาะสม มี
ผลต
อการเรี
ยนระดั
บปานกลาง โดยพบว
านั
กศึ
กษาที่
มี
ผลการ
เรี
ยนอยู
ในภาวะรอพิ
นิ
จ มี
ความคิ
ดเห็
นในหั
วข
อนี้
สู
งกว
านั
กศึ
กษาที่
มี
ผลการเรี
ยนอยู
ในภาวะปกติ
ส
วนในข
อที่
คิ
ดว
ากิ
จกรรมต
างๆ สามารถฝ
กลั
กษณะที่
ดี
ได
เช
น ความรั
บผิ
ดชอบ ความตรงต
อเวลา มี
1...,1692,1693,1694,1695,1696,1697,1698,1699,1700,1701 1703,1704,1705,1706,1707,1708,1709,1710,1711,1712,...2023
Powered by FlippingBook