เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 1022

บทนํ
นํ
?
าเป็
นทรั
พยากรธรรมชาติ
ทีC
มี
ความสํ
าคั
ญและจํ
าเป็
นอย่
างยิ
C
งสํ
าหรั
บการดํ
ารงชี
พของมนุ
ษย์
และสิ
C
งมี
ชี
วิ
อืC
นๆ นั
บวั
นความต้
องการใช้
นํ
?
าของมนุ
ษย์
มี
ปริ
มาณเพิ
C
มขึ
?
นเรืC
อยๆ จนทํ
าให้
ทรั
พยากรทางนํ
?
าเกิ
ดความเสืC
อมโทรมลง นํ
?
ทีC
ดี
มี
คุ
ณภาพจึ
งเกิ
ดการขาดแคลน เป็
นผลทํ
าให้
เกิ
ดการแย่
งชิ
งทรั
พยากรนํ
?
าทีC
มี
คุ
ณภาพ และในปั
จจุ
บั
นพบว่
ามนุ
ษย์
ขาด
ความตระหนั
กและขาดความรั
บผิ
ดชอบต่
อสิ
C
งแวดล้
อม จึ
งส่
งผลทํ
าให้
ทรั
พยากรทางนํ
?
าเกิ
ดการปนเปื
?
อนของสารพิ
ต่
างๆ ซึ
C
งเป็
นปั
ญหานํ
?
าเสี
ยในปั
จจุ
บั
ปั
ญหานํ
?
าเสี
ยเป็
นปั
ญหาทีC
สํ
าคั
ญปั
ญหาหนึ
C
งในพื
?
นทีC
ลุ
มนํ
?
าทะเลสาบสงขลา อั
นเนืC
องมาจากคุ
ณภาพนํ
?
าบริ
เวณ
ปากคลองต่
างๆ ทีC
ไหลลงสู
ทะเลสาบสงขลาอยู
ในเกณฑ์
เสืC
อมโทรมถึ
งเสืC
อมโทรมมากทีC
สุ
ด ซึ
C
งคลองสํ
าโรงก็
เป็
นคลอง
สาขาหนึ
C
งทีC
ไหลลงสู
ทะเลสาบสงขลาโดยคลองสํ
าโรงเป็
นแหล่
งนํ
?
าวิ
กฤติ
ในพื
?
นทีC
จั
งหวั
ดสงขลา และคลองสํ
าโรงก็
ได้
รั
ผลกระทบจากการทํ
ากิ
จกรรมต่
างๆ ของมนุ
ษย์
ซึ
C
งในอดี
ตคลองสํ
าโรงอุ
ดมไปด้
วยพื
ชพั
นธุ
ไม้
ป่
าชายเลน ระบบนิ
เวศน์
มี
ลั
กษณะพิ
เศษคื
อ นํ
?
าจื
ด นํ
?
ากร่
อย และนํ
?
าเค็
ม หมุ
นเวี
ยนผลั
ดเปลีC
ยนกั
นไปตามฤดู
กาล มี
สั
ตว์
นํ
?
าชุ
กชุ
ม อุ
ดมสมบู
รณ์
และชาวบ้
านบริ
เวณริ
มคลองสํ
าโรงได้
ใช้
นํ
?
าแหล่
งนี
?
ในการบริ
โภคและอุ
ปโภค การทํ
าเกษตรกรรมต่
างๆ รวมทั
?
งการใช้
คลองสายนี
?
เป็
นเส้
นทางในการคมนาคม
แต่
ปั
จจุ
บั
นกั
บพบว่
าเมืC
อมี
บ้
านเรื
อนราษฎร โรงงานอุ
ตสาหกรรม และสถาน
ประกอบการด้
านประมงแบบครั
วเรื
อน ก่
อสร้
างอยู
ริ
มตลอดแนวความยาวของคลอง จากคลองทีC
เคยกว้
างถึ
ง 45 เมตร
เหลื
อเพี
ยง 7 เมตร ชุ
มชนและโรงงานอุ
ตสาหกรรมบางแห่
งทีC
อาศั
ยอยู
ใกล้
ริ
มคลองก็
ได้
ปล่
อยนํ
?
าเสี
ยลงสู
คลองสํ
าโรง
โดยตรงโดยมิ
ได้
ทํ
าการบํ
าบั
ด จนทํ
าให้
คลองสํ
าโรงกลายเป็
นแหล่
งรองรั
บนํ
?
าเสี
ยจากชุ
มชนและโรงงานอุ
ตสาหกรรม
ซึ
C
งเป็
นผลทํ
าให้
นํ
?
าทีC
เคยใสสะอาดกลายเป็
นสี
ดํ
า มี
ขยะลอยฟ่
อง ส่
งกลิ
C
นเน่
าเหม็
น ลํ
านํ
?
าตืC
นเขิ
น อี
กทั
?
งยั
งเป็
นแหล่
เพาะพั
นธุ
เชื
?
อโรคนานาชนิ
ด จนทํ
าให้
นํ
?
าในคลองสํ
าโรงไม่
สามารถนํ
ามาใช้
ในการบริ
โภคและอุ
ปโภคได้
อี
กต่
อไป
และ
หากยั
งปล่
อยไว้
เช่
นนี
?
อาจมี
แนวโน้
มทีC
จะมี
ปั
ญหารุ
นแรงเกิ
ดขึ
?
นในอนาคต ซึ
C
งอาจจะส่
งผลต่
อคุ
ณภาพชี
วิ
ตของประชาชน
บริ
เวณริ
มคลองสํ
าโรงได้
ดั
งนั
?
นวิ
ธี
การหนึ
C
งทีC
จะแก้
ไขและบํ
ารุ
งรั
กษาลํ
าคลองให้
อยู
ในสภาพทีC
เหมาะสมจึ
งต้
องมี
การ
จั
ดการนํ
?
าเสี
ยให้
อยู
ในระดั
บทีC
ยอมรั
บได้
ทั
?
งนี
?
ก็
ต้
องขึ
?
นอยู
กั
บความร่
วมมื
อของประชาชนและการมี
จิ
ตสํ
านึ
กต่
สิ
C
งแวดล้
อม จากความสํ
าคั
ญของปั
ญหาดั
งกล่
าว ผู
วิ
จั
ยจึ
งมี
ความสนใจทีC
จะศึ
กษาการประเมิ
นมู
ลค่
าความเต็
มใจจ่
ายใน
การฟื
?
นฟู
คลองสํ
าโรง โดยนํ
าเครืC
องมื
อทางด้
านเศรษฐศาสตร์
สิ
C
งแวดล้
อม (Contingent Valuation Method: CVM) มาใช้
ในการประเมิ
นมู
ลค่
วิ
ธี
การวิ
จั
การศึ
กษาความเต็
มใจจ่
ายในการฟื
?
นฟู
คลองสํ
าโรง จั
งหวั
ดสงขลา
เป็
นแบบการวิ
จั
ยเชิ
งสํ
ารวจ (Survey
research) โดยการสั
มภาษณ์
จากกลุ่
มตั
วอย่
างจํ
านวน 400 คน ทีC
อาศั
ยอยู
บริ
เวณคลองสํ
าโรง โดยใช้
แนวคิ
ดประเมิ
มู
ลค่
าทางตรง (Direct Method) โดยการสมมติ
สถานการณ์
(Contingent Valuation Method: CVM ) (เต็
มดวง รั
ตน
ทั
ศนี
ย์
, 2533 , อรชา มุ
ยเสมา, 2548) ซึ
C
งเป็
นวิ
ธี
ทีC
มี
ความคล่
องตั
วสู
งและสามารถนํ
ามาใช้
กั
บการประเมิ
นมู
ลค่
สิ
C
งแวดล้
อมได้
ทุ
กประเภทไม่
ว่
าจะเป็
น มู
ลค่
าทีC
เกิ
ดจากการใช้
(Use Value) มู
ลค่
าจากการมิ
ได้
ใช้
(Non Use Value) และ
มู
ลค่
าสํ
าหรั
บอนาคต (Option Value) ขึ
?
นอยู
กั
บลั
กษณะของการตั
?
งคํ
าถามทีC
จะสั
มภาษณ์
ประชาชนเป้
าหมาย (Champ et
al., 2004, Hanley et al., 1994) โดยการสมมติ
สถานการณ์
บนพื
?
นฐานทีC
จะเกิ
ดขึ
?
นจริ
ง (สมมติ
เหตุ
การณ์
การปรั
บปรุ
คุ
ณภาพนํ
?
าออกเป็
น 4 สถานการณ์
ดั
งตาราง 1) ซึ
C
งในการวิ
จั
ยครั
?
งนี
?
เป็
นการถามเพืC
อหาความเต็
มใจจ่
าย (Willingness to
Pay: WTP) โดยคํ
าถามแบบปิ
(Close – Ended) วิ
ธี
Bidding Game Question
1...,1012,1013,1014,1015,1016,1017,1018,1019,1020,1021 1023,1024,1025,1026,1027,1028,1029,1030,1031,1032,...1102
Powered by FlippingBook