พนมวั
น (2547) ศึ
กษาเรืC
อง “ความเต็
มใจจ่
ายค่
าธรรมเนี
ยมบํ
าบั
ดนํ
?
าเสี
ยของกลุ
่
มประชากรบ้
านพั
กอาศั
ย กรณี
ศึ
กษา
โครงการบํ
าบั
ดนํ
?
าเสี
ยเทศบาลนครนครสวรรค์
”
รายได้
เฉลีC
ยต่
อเดื
อน
สอดคล้
องกั
บงานวิ
จั
ยของ พงศ์
นริ
นทร์
พนมวั
น (2547) ศึ
กษาเรืC
อง “ความเต็
มใจจ่
าย
ค่
าธรรมเนี
ยมบํ
าบั
ดนํ
?
าเสี
ยของกลุ
่
มประชากรบ้
านพั
กอาศั
ย กรณี
ศึ
กษา โครงการบํ
าบั
ดนํ
?
าเสี
ยเทศบาลนครนครสวรรค์
” ทีC
กล่
าวว่
ากลุ
่
มตั
วอย่
างทีC
มี
รายได้
มากกว่
าย่
อมมี
ความสามารถทีC
จะจ่
ายเงิ
นในการฟื
?
นฟู
คลองสํ
าโรง ได้
มากกว่
ากลุ
่
มตั
วอย่
างทีC
มี
รายได้
ในระดั
บทีC
ตํ
C
ากว่
าซึ
C
งเป็
นไปตามทฤษฎี
พฤติ
กรรมผู
้
บริ
โภค นั
C
นคื
อเมืC
อรายได้
ของผู
้
บริ
โภคเปลีC
ยนแปลงไปจากเดิ
มจะ
ทํ
าให้
ความสามารถในการซื
?
อเปลีC
ยนแปลงไปในทิ
ศทางเดี
ยวกั
น กล่
าวคื
อ เมืC
อผู
้
บริ
โภคมี
รายได้
เพิ
C
มขึ
?
นจะทํ
าให้
ความสามารถในการซื
?
อสิ
นค้
าของผู
้
บริ
โภคเพิ
C
มขึ
?
น ในทางกลั
บกั
น หากรายได้
ของผู
้
บริ
โภคลดลงความสามารถในการซื
?
อ
สิ
นค้
าก็
จะลดลงไปด้
วย
ระยะเวลาทีC
อยู
่
อาศั
ย กลุ
่
มตั
วอย่
างทีC
อยู
่
อาศั
ยบริ
เวณคลองสํ
าโรงเป็
นเวลานานพอสมควร อาจได้
รั
บรู
้
ถึ
งปั
ญหา ใน
เรืC
องนํ
?
ามี
กลิ
C
นเหม็
น นํ
?
ามี
สี
ดํ
า และมี
วั
ชพื
ช หากได้
ประสบเป็
นเวลานานทํ
าให้
ไม่
สามารถทนต่
อปั
ญหานั
?
นได้
จึ
งกล่
าวได้
ว่
าผู
้
ทีC
มี
ระยะเวลาทีC
อยู
่
อาศั
ยบริ
เวณริ
มคลองสํ
าโรงเป็
นเวลานานย่
อมมี
ความเต็
มใจจ่
ายมากกว่
าผู
้
ทีC
อยู
่
อาศั
ยบริ
เวณริ
มคลอง
ไม่
นาน สอดคล้
องกั
บงานวิ
จั
ยของ ประวี
พร ประสพเกี
ยรติ
โภคา (2551) ศึ
กษาเรืC
อง “การประเมิ
นมู
ลค่
าสิ
C
งแวดล้
อมใน
การดู
แลรั
กษาแม่
นํ
?
ากวงอํ
าเภอเมื
อง จั
งหวั
ดลํ
าพู
น”
ความรุ
นแรงของปั
ญหา หากระดั
บความรุ
นแรงของปั
ญหาเพิ
C
มขึ
?
น ผลเสี
ยทีC
จะเกิ
ดกั
บกลุ
่
มตั
วอย่
างประชากรก็
เพิ
C
มขึ
?
นด้
วย เช่
น ประชากรทีC
เคยประสบกั
บปั
ญหาเรืC
องนํ
?
ามี
กลิ
C
นเหม็
นเมืC
อก่
อนกลุ
่
มตั
วอย่
างสามารถทนรั
บกั
บปั
ญหา
ดั
งกล่
าวได้
อาจเนืC
องมาจากกลิ
C
นยั
งไม่
มี
ความรุ
นแรงมากนั
ก ต่
อมาเมืC
อนํ
?
ามี
กลิ
C
นเหม็
นขึ
?
นเรืC
อยๆ จนกลุ
่
มตั
วอย่
างไม่
สามารถ
ยอมรั
บกั
บปั
ญหาดั
งกล่
าวได้
เพราะหากกลิ
C
นเหม็
นของนํ
?
าอยู
่
ในระดั
บทีC
รุ
นแรงจะส่
งผลเสี
ยต่
อสุ
ขภาพกายและสุ
ขภาพจิ
ตของ
ผู
้
ทีC
ได้
รั
บ เมืC
อกลุ
่
มตั
วอย่
างไม่
สามารถทีC
จะยอมทนอยู
่
กั
บสภาพของปั
ญหาดั
งกล่
าวได้
กลุ
่
มตั
วอย่
างจึ
งมี
ความเต็
มใจทีC
จะ
จ่
ายเงิ
นเพืC
อใช้
ในการฟื
?
นฟู
เพิ
C
มขึ
?
นด้
วย สอดคล้
องกั
บงานวิ
จั
ยของ นงคราญ ประมู
ล (2551) ศึ
กษาเรืC
อง “ความเต็
มใจจ่
าย
เพืC
อให้
ได้
รั
บทรั
พยากรนํ
?
าทีC
ดี
ขึ
?
นของเกษตรกรปลายนํ
?
าในลุ
่
มนํ
?
าแม่
สา จั
งหวั
ดเชี
ยงใหม่
”
ระยะห่
างของทีC
อยู
่
อาศั
ยกั
บคลองสํ
าโรง หากกลุ่
มตั
วอย่
างมี
บ้
านเรื
อนทีC
อยู
่
ไม่
ห่
างจากคลองสํ
าโรงมากนั
กย่
อม
สามารถรั
บรู
้
ถึ
งปั
ญหาทีC
เกิ
ดขึ
?
นได้
ดี
กว่
าผู
้
ทีC
อยู
่
ห่
างออกไป เช่
น กลุ
่
มตั
วอย่
างทีC
มี
บ้
านเรื
อนอยู
่
ใกล้
กั
บคลองจะได้
รั
บ
ผลกระทบจากปั
ญหาเรืC
องนํ
?
ามี
กลิ
C
นเหม็
น ปั
ญหาด้
านความเสืC
อมโทรมด้
านทั
ศนี
ยภาพ มากกว่
ากลุ
่
มตั
วอย่
างทีC
มี
บ้
านเรื
อนอยู
่
ไกลออกไป ดั
งนั
?
นจึ
งทํ
าให้
กลุ
่
มตั
วอย่
างทีC
อยู
่
ใกล้
คลองมี
ความเต็
มใจจ่
ายเพืC
อทีC
จะแก้
ไขปั
ญหาดั
งกล่
าวได้
มากกว่
ากลุ
่
ม
ตั
วอย่
างทีC
อยู
่
ไกลออกไป เพืC
อให้
ได้
มาซึ
C
งสภาพแวดล้
อมทีC
สวยงาม อั
นจะส่
งผลทํ
าให้
สุ
ขภาพกายและสุ
ขภาพจิ
ตของกลุ
่
ม
ตั
วอย่
างทีC
อยู
่
ใกล้
ดี
ขึ
?
นขึ
?
น สอดคล้
องกั
บงานวิ
จั
ยของ มนั
ส กั
นทะสุ
ข (2546) ศึ
กษาเรืC
อง “ความต้
องการและความเต็
มใจ
จะจ่
ายในการปรั
บปรุ
งคุ
ณภาพนํ
?
าของคลองแม่
ข่
าของผู
้
มี
ส่
วนได้
ส่
วนเสี
ยในอํ
าเภอเมื
อง จั
งหวั
ดเชี
ยงใหม่
”
ปริ
มาณการใช้
นํ
?
าในปั
จจุ
บั
น ถึ
งแม้
ว่
ากลุ
่
มตั
วอย่
างจะใช้
นํ
?
าประปาในการทํ
ากิ
จกรรมในครั
วเรื
อนทั
?
งการอุ
ปโภค
และบริ
โภคปริ
มาณมากก็
ตาม ต่
อให้
มี
การฟื
?
นฟู
คลองสํ
าโรงเกิ
ดขึ
?
นกลุ
่
มตั
วอย่
างก็
ไม่
นิ
ยมนํ
านํ
?
าจากคลองมาใช้
อยู
่
แล้
ว
เพราะนํ
?
าในคลองไม่
สามารถนํ
ามาใช้
ประโยชน์
ได้
มากเหมื
อนนํ
?
าประปา ดั
งนั
?
นกลุ
่
มตั
วอย่
างจึ
งยอมทีC
จะใช้
นํ
?
าในการ
อุ
ปโภคและบริ
โภค ถึ
งแม้
จะใช้
ในปริ
มาณทีC
สู
งแต่
ก็
ยอมเพราะนํ
?
าประปาจะมี
คุ
ณภาพมากกว่
านํ
?
าคลอง ดั
งนั
?
นกลุ
่
ม
ตั
วอย่
างจึ
งมี
ความเต็
มใจจ่
ายในการฟื
?
นฟู
คลองสํ
าโรงน้
อย สอดคล้
องกั
บงานวิ
จั
ยของ บุ
ญส่
ง เลาะวิ
ถี
(2550) ศึ
กษาเรืC
อง
“ปั
จจั
ยทีC
มี
ผลต่
อความเต็
มใจจ่
ายค่
าธรรมเนี
ยมบํ
าบั
ดนํ
?
าเสี
ยของประชาชนในเขตเทศบาลนครเชี
ยงใหม่
” ทีC
กล่
าวว่
ากลุ
่
ม
ตั
วอย่
างไม่
ได้
คํ
านึ
งถึ
งการนํ
านํ
?
ามาใช้
ประโยชน์
ในครั
วเรื
อน แต่
คํ
านึ
งถึ
งด้
านสภาพแวดล้
อมมากกว่
า