การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยทักษิณ 2559 - page 114

113
บทน้
ปั
จจุ
บั
นประเทศไทยมี
โรงงานอุ
ตสาหกรรมการผลิ
ตเอทานอลทั้
งหมด 21 แห่
ง ปั
ญหาส่
วนใหญ่
ของอุ
ตสาหกรรมนี้
จะอยู่
ในขั้
นตอนของกระบวนการกลัไ
น ซึไ
งจะมี
น้้
าเสี
ยหรื
อน้้
ากากส่
าเกิ
ดขึ้
น น้้
ากากส่
าจั
ดเป็
นน้้
าเสี
ยทีไ
มี
สารอิ
นทรี
ย์
ใน
ปริ
มาณสู
ง ซึไ
งจะมี
ค่
าความต้
องการออกซิ
เจนทางเคมี
(COD) 118,098 มิ
ลลิ
กรั
มต่
อลิ
ตร ค่
าความต้
องการออกซิ
เจนทาง
ชี
วเคมี
(BOD) 27,475 มิ
ลลิ
กรั
มต่
อลิ
ตร ปริ
มาณของแข็
งแขวนลอย 11,319 มิ
ลลิ
กรั
มต่
อลิ
ตร ปริ
มาณของแข็
งทั้
งหมด
75,829 มิ
ลลิ
กรั
มต่
อลิ
ตร ปริ
มาณของแข็
งทีไ
ระเหยได้
58,523 มิ
ลลิ
กรั
มต่
อลิ
ตร และยั
งมี
สารประกอบจ้
าพวกฟอสเฟส
โดยรวม 128.65 มิ
ลลิ
กรั
มต่
อลิ
ตร น้้
าตาลโดยรวม ร้
อยละ 0.1น้้
าหนั
กต่
อปริ
มาตร กรดโดยรวม 0.334 กรั
มต่
อ 100
มิ
ลลิ
ลิ
ตร และกรดอะมิ
โนรวม 0.076 กรั
มต่
อ 100 มิ
ลลิ
ลิ
ตร [1] จากปริ
มาณสารอิ
นทรี
ย์
ดั
งกล่
าว ถ้
าไม่
มี
การบ้
าบั
ดก่
อน
ปล่
อยสู่
สภาพแวดล้
อม จะส่
งผลกระทบต่
อแม่
น้
าล้
าคลอง และรวมถึ
งลั
กษณะทางกายภาพของดิ
นบริ
เวณนั
น ท้
าให้
แหล่
น้้
าและดิ
นมี
สภาพเสืไ
อมโทรม การใช้
ประโยชน์
ของน้้
ากากส่
าส่
วนใหญ่
ยั
งไม่
กว้
างขวาง อาทิ
เช่
น น้
าเลี้
ยงจุ
ลิ
นทรี
ย์
เพืไ
อผลิ
เป็
นโปรตี
นเซลล์
เดี
ยว น้
าไปใช้
ในการหมั
กก๊
าซมี
เทน เป็
นต้
น นอกจากนี้
จากการศึ
กษายั
งพบว่
า น้้
ากากส่
า มี
องค์
ประกอบ
ของกรดไขมั
นระเหยง่
าย และน้้
าตาล ซึไ
งสามารถน้
ามาใช้
ประโยชน์
โดยใช้
เป็
นสารตั้
งต้
นส้
าหรั
บการผลิ
ตกรดแลคติ
ก ด้
วย
กระบวนการหมั
กด้
วยจุ
ลิ
นทรี
ย์
ทีไ
มี
ความสามารถในการผลิ
ตกรดแลคติ
กได้
ซึไ
งช่
วยลดต้
นทุ
น เพิไ
มมู
ลค่
า น้
ากลั
บมาใช้
ประโยชน์
อย่
างสู
งสุ
ด และยั
งช่
วยลดปั
ญหาการปล่
อยน้้
าเสี
ยลงสู่
สิไ
งแวดล้
อม
การผลิ
ตกรดแลคติ
กส่
วนใหญ่
จะใช้
แบคที
เรี
ยในการหมั
ก โดยเฉพาะแบคที
เรี
ยในสกุ
Lactobacillus
,
Streptococcus
และ
Leuconostoc
กรดแลคติ
กสามารถน้
ามาประยุ
กต์
ใช้
ประโยชน์
ในอุ
ตสาหกรรมหลายประเภท พบว่
ประมาณร้
อยละ 85 ใช้
ในอุ
ตสาหกรรมอาหารและอุ
ตสาหกรรมทีไ
เกีไ
ยวข้
องกั
บอาหาร ในขณะทีไ
ประมาณ 15 เปอร์
เซ็
นต์
ของกรดแลคติ
กถู
กน้
ามาใช้
อุ
ตสาหกรรมทีไ
ไม่
ใช่
อาหาร เช่
น เครืไ
องส้
าอาง เภสั
ชกรรม และการประยุ
กต์
ใช้
ทางเคมี
[2]
การศึ
กษาการใช้
ประโยชน์
ของน้้
ากากส่
านี้
สามารถน้
าไปประยุ
กต์
เป็
นแนวทางเพืไ
อช่
วยแก้
ปั
ญหามลภาวะทีไ
เกิ
ดขึ้
นใน
โรงงานผลิ
ตเอทานอลได้
ดั
งนั้
นวั
ตถุ
ประสงค์
ของงานวิ
จั
ยนี้
เป็
นการศึ
กษาการผลิ
ตกรดแลคติ
กจากน้้
ากากส่
าด้
วยจุ
ลิ
นทรี
ย์
L. plantarum
โดยศึ
กษาสภาวะทีไ
เหมาะสมต่
อการผลิ
ต ได้
แก่
ผลของความเข้
มข้
นของน้้
ากากส่
า แหล่
งไนโตรเจน อุ
ณหภู
มิ
พี
เอช และอั
ตราการเขย่
าทีไ
เหมาะสม
วิ
ธี
การวิ
จั
1. เชื้
อจุ
ลิ
นทรี
ย์
อาหารเลี้
ยงเชื้
อ และสภาวะในการเก็
บรั
กษา
Lactobacillus plantarum
ATCC 21028 ได้
มาจาก สถาบั
นวิ
จั
ยวิ
ทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
แห่
งประเทศไทย
ท้
าการเลี้
ยงในอาหาร De Man Rogosa Sharpe (MRS) ซึไ
งประกอบด้
วย Proteose peptone, Beef extract, Yeast
extract, Dextrose, Tween 80, Ammonium citrate, Sodium acetate, Magnesium sulfate, Manganese
sulfate และ Potassium hydrogen phosphate โดยเก็
บรั
กษาทีไ
อุ
ณหภู
มิ
4 องศาเซลเซี
ยส จนกว่
าจะน้
าไปใช้
งาน
2. การเตรี
ยมหั
วเชื้
อเริไ
มต้
เชื้
อจุ
ลิ
นทรี
ย์
L. plantarum
เก็
บไว้
บนอาหารแข็
ง MRS Agar ทีไ
4 องศาเซลเซี
ยส ถ่
ายเชื้
อจากอาหารแข็
งลงใน
อาหารเหลว MRS ท้
าการเลี้
ยงทีไ
อุ
ณหภู
มิ
37 องศาเซลเซี
ยส อั
ตราการเขย่
า 170 รอบต่
อนาที
เป็
นเวลา 24 ชัไ
วโมง
3. การวิ
เคราะห์
องค์
ประกอบของน้้
ากากส่
การวิ
เคราะห์
เชิ
งปริ
มาณของน้้
ากากส่
าโดยหาค่
า ซี
โอดี
บี
โอดี
ปริ
มาณของแข็
งทั้
งหมด ของแข็
งระเหยง่
าย และ
ของแข็
งทีไ
ละลายน้้
าได้
ตามวิ
ธี
การของ APHA, AWWA and AWEF [3] และการเชิ
งคุ
ณภาพเพืไ
อหาชนิ
ดของน้้
าตาล ด้
วย
วิ
ธี
HPLC (WI-RES-HPLC-001 และ REF-RES-SampleprepHPLC-048) และชนิ
ดกรดไขมั
นระเหยง่
าย ด้
วยวิ
ธี
GC (WI-
RES-GC-001 และ REF-RES-Sampleprep-GC-020) [4]
4. การศึ
กษาสภาวะทีไ
เหมาะสมของการผลิ
ตกรดแลคติ
กจากน้้
ากากส่
ศึ
กษาการผลิ
ตกรดแลคติ
กจากเชื้
L. plantarum
โดยใช้
น้้
ากากส่
าหลั
งกระบวนการผลิ
ตเอทานอลจากเปลื
อก
สั
บปะรด [4] เป็
นสารตั้
งต้
น โดยจะท้
าการศึ
กษาผลของความเข้
มข้
นของน้้
ากากส่
าทีไ
เหมาะสมต่
อการผลิ
ตกรดแลคติ
[ความเข้
มข้
นร้
อยละ 50 และ 100 (ปริ
มาตรต่
อปริ
มาตร)] ผลของแหล่
งของไนโตรเจนทีไ
เหมาะสม (Yeast extract,
peptone) ทีไ
ความเข้
มข้
น 5.0 กรั
มต่
อลิ
ตร ผลของอุ
ณหภู
มิ
(อุ
ณหภู
มิ
ห้
อง (28-30
o
C) 45 และ 75
o
C ผลของอั
ตราการ
1...,104,105,106,107,108,109,110,111,112,113 115,116,117,118,119,120,121,122,123,124,...300
Powered by FlippingBook