2
บทนํ
า
ขนุ
น มี
ชืÉ
อทางวิ
ทยาศาสตร์
ว่
า
Artocarpus heterophyllus
Lamk วงศ์
MORACEAE ชืÉ
อพื
Ê
นเมื
องจะแตกต่
างกั
นไป
ตามท้
องถิÉ
นนั
Ê
น ๆ ซึ
É
งแต่
ละส่
วนของขนุ
นมี
สรรพคุ
ณ เช่
น ใบ รสฝาดมั
น รั
กษาหนองเรื
Ê
อรั
ง และใบสดนํ
ามาตํ
าให้
ละเอี
ยดอุ่
น
พอกแผล ราก รสหวานอมขม แก้
ท้
องร่
วง แก้
ไข้
แก้
ธาตุ
นํ
Ê
ากํ
าเริ
บ โลหิ
ตพิ
การ ฝาดสมานบํ
ารุ
งกํ
าลั
ง และบํ
ารุ
งโลหิ
ต เนื
Ê
อหุ
้
ม
เมล็
ด รสหวานมั
นหอม บํ
ารุ
งกํ
าลั
ง และชู
หั
วใจให้
ชุ่
มชืÉ
น และสามารถแปรรู
ปเป็
นผลิ
ตภั
ณฑ์
ชนิ
ดต่
าง ๆ ได้
เช่
น ขนุ
นอบแห้
ง
ขนุ
นในนํ
Ê
าเชืÉ
อม บรรจุ
กระป๋
อง นอกจากนี
Ê
ยั
งส่
งไปจํ
าหน่
ายยั
งต่
างประเทศได้
การอบแห้
งเปนกรรมวิ
ธี
ทีÉ
สามารถนํ
ามาใช้
ถนอมและเก็
บรั
กษาผลิ
ตภั
ณฑ์
ทางการเกษตรและเนื
Ê
อสั
ตว์
โดยผลิ
ตภั
ณฑ์
ทีÉ
ผ่
านกระบวนการอบแห้
งแล้
วจะมี
ความชื
Ê
นลดลง
ทํ
าให้
จุ
ลิ
นทรี
ย์
ทีÉ
อยู
่
ภายในผลิ
ตภั
ณฑ์
มี
อั
ตราการเจริ
ญเติ
บโตช้
าลง และผลิ
ตภั
ณฑ์
ไม่
เน่
าเสี
ยง่
าย (สมชาติ
, 2540; Devahastin
et
al.,
2006; Tapaneyasin
et al.,
2005) ปั
จจั
ยทีÉ
ส่
งเสริ
มให้
เกิ
ดการเน่
าเสี
ยได้
เร็
วขึ
Ê
น ได้
แก่
ปริ
มาณความชื
Ê
นเป็
นองค์
ประกอบหลั
ก
จากการศึ
กษาผลิ
ตภั
ณฑ์
ขนุ
นอบกรอบตามท้
องตลาดพบว่
า ส่
วนใหญ่
จะใช้
วิ
ธี
การอบแห้
งแล้
วนํ
ามาทอด ปั
ญหาทีÉ
ตามมาคื
อ มี
ปริ
มาณนํ
Ê
ามั
นทีÉ
ตกค้
างอยู
่
ในเนื
Ê
อขนุ
น ทํ
าให้
เกิ
ดกลิÉ
นเหม็
นหื
นและได้
ไม่
นาน รวมทั
Ê
งยั
งเป็
นการสิ
Ê
นเปลื
องนํ
Ê
ามั
นทีÉ
ใช้
ในการ
ทอด ซึ
É
งจะเป็
นอั
นตรายต่
อผู
้
บริ
โภค และระยะเวลาในการตากแดดต้
องใช้
เวลานาน ซึ
É
งไม่
ทั
นต่
อความต้
องการของผู
้
บริ
โภค
และอี
กปั
ญหาก็
คื
อ ด้
านภู
มิ
อากาศทีÉ
ไม่
คงทีÉ
ทํ
าให้
ไม่
สามารถทํ
าการตากแห้
งได้
ตลอดเวลา แหล่
งพลั
งงานทีÉ
ใช้
ในการอบแห้
ง
มี
หลายแบบ เช่
น การใช้
ลมร้
อนจากเครืÉ
องทํ
าความร้
อนซึ
É
งเป็
นการอบแห้
งแบบการพาความร้
อน (Jain, 2006) การอบแห้
งด้
วย
ไอนํ
Ê
าร้
อนยวดยิÉ
ง หรื
อการอบแห้
งแบบการแผ่
รั
งสี
ความร้
อน ได้
แก่
การอบแห้
งด้
วยคลืÉ
นไมโครเวฟ การอบแห้
งด้
วยคลืÉ
นรั
งสี
อิ
นฟราเรด (อํ
าไพศั
กดิ
Í
และคณะ 2549; Chua and Chou, 2005) เป็
นต้
น ปั
จจุ
บั
นปั
ญหาการขาดแคลนพลั
งงานได้
เพิÉ
มมากขึ
Ê
น
แหล่
งทดแทนจึ
งเป็
นทีÉ
สนใจในการนํ
ามาประยุ
กต์
ใช้
ในการอบแห้
ง
รวมทั
Ê
งมี
การปรั
บปรุ
งเทคโนโลยี
เพิÉ
มขึ
Ê
น
ทํ
าให้
มี
ประสิ
ทธิ
ภาพเพิÉ
มมากขึ
Ê
น โดยนํ
ามาใช้
ในรู
ปแบบของการผสมผสาน การอบแห้
งระบบผสมผสาน (Tirawanichakul
et al.,
2004; Tirawanichakul
et al.,
2008) เป็
นวิ
ธี
การอบแห้
งทีÉ
ใช้
แหล่
งพลั
งงานตั
Ê
งแต่
2 รู
ปแบบ ขึ
Ê
นไป มาใช้
ในกระบวนการอบแห้
ง
เช่
น พลั
งงานแสงอาทิ
ตย์
ร่
วมกั
บลมร้
อน โดยลมร้
อนอาจได้
มาจากพลั
งงานเชื
Ê
อเพลิ
งชี
วมวลหรื
อพลั
งงานไฟฟ้
า เพราะการใช้
พลั
งงานแสงอาทิ
ตย์
เพี
ยงอย่
างเดี
ยว อาจมี
ปั
ญหาเนืÉ
องจาก 1) พลั
งงานแสงอาทิ
ตย์
มี
ความไม่
สมํ
É
าเสมอ 2) พลั
งงานความร้
อนมี
อุ
ณหภู
มิ
สู
งไม่
เพี
ยงพอแก่
ความต้
องการ หรื
อเพืÉ
อต้
องการให้
ผลิ
ตผลทางการเกษตรแห้
งเร็
วขึ
Ê
น
ดั
งนั
Ê
นวั
ตถุ
ประสงค์
ของงานวิ
จั
ยนี
Ê
เป็
นการศึ
กษาผลของการอบแห้
งขนุ
นด้
วยแหล่
งพลั
งงานหลายรู
ปแบบ ได้
แก่
การอบแห้
งแบบผสมผสาน (ใช้
พลั
งงานแสงอาทิ
ตย์
ร่
วมกั
บพลั
งงานความร้
อนจากไฟฟ้
า) การอบแห้
งด้
วยลมร้
อนจากไฟฟ้
า
และการอบแห้
งด้
วยรั
งสี
อิ
นฟราเรด ต่
อจลนพลศาสตร์
การอบแห้
ง ความสิ
Ê
นเปลื
องพลั
งงานจํ
าเพาะทีÉ
ใช้
ในการอบแห้
ง และ
คุ
ณภาพของผลิ
ตภั
ณฑ์
ขนุ
น
วิ
ธี
การวิ
จั
ย
วั
สดุ
เนื
Ê
อขนุ
นซื
Ê
อจากห้
างสรรพสิ
นค้
า TESCO LOTUS อํ
าเภอหาดใหญ่
จั
งหวั
ดสงขลา แล้
วนํ
ามาหาความชื
Ê
นตาม
มาตรฐาน AOAC (1995) นํ
าขนุ
นหัÉ
นตามขวาง ความหนาประมาณ 2.5+0.05 มิ
ลลิ
เมตร แล้
วนํ
ามาจั
ดเรี
ยงในถาดอบแห้
งเป็
น
ชั
Ê
นเดี
ยว