เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 182

2
บทนํ
ขนุ
น มี
ชืÉ
อทางวิ
ทยาศาสตร์
ว่
Artocarpus heterophyllus
Lamk วงศ์
MORACEAE ชืÉ
อพื
Ê
นเมื
องจะแตกต่
างกั
นไป
ตามท้
องถิÉ
นนั
Ê
น ๆ ซึ
É
งแต่
ละส่
วนของขนุ
นมี
สรรพคุ
ณ เช่
น ใบ รสฝาดมั
น รั
กษาหนองเรื
Ê
อรั
ง และใบสดนํ
ามาตํ
าให้
ละเอี
ยดอุ่
พอกแผล ราก รสหวานอมขม แก้
ท้
องร่
วง แก้
ไข้
แก้
ธาตุ
นํ
Ê
ากํ
าเริ
บ โลหิ
ตพิ
การ ฝาดสมานบํ
ารุ
งกํ
าลั
ง และบํ
ารุ
งโลหิ
ต เนื
Ê
อหุ
เมล็
ด รสหวานมั
นหอม บํ
ารุ
งกํ
าลั
ง และชู
หั
วใจให้
ชุ่
มชืÉ
น และสามารถแปรรู
ปเป็
นผลิ
ตภั
ณฑ์
ชนิ
ดต่
าง ๆ ได้
เช่
น ขนุ
นอบแห้
ขนุ
นในนํ
Ê
าเชืÉ
อม บรรจุ
กระป๋
อง นอกจากนี
Ê
ยั
งส่
งไปจํ
าหน่
ายยั
งต่
างประเทศได้
การอบแห้
งเปนกรรมวิ
ธี
ทีÉ
สามารถนํ
ามาใช้
ถนอมและเก็
บรั
กษาผลิ
ตภั
ณฑ์
ทางการเกษตรและเนื
Ê
อสั
ตว์
โดยผลิ
ตภั
ณฑ์
ทีÉ
ผ่
านกระบวนการอบแห้
งแล้
วจะมี
ความชื
Ê
นลดลง
ทํ
าให้
จุ
ลิ
นทรี
ย์
ทีÉ
อยู
ภายในผลิ
ตภั
ณฑ์
มี
อั
ตราการเจริ
ญเติ
บโตช้
าลง และผลิ
ตภั
ณฑ์
ไม่
เน่
าเสี
ยง่
าย (สมชาติ
, 2540; Devahastin
et
al.,
2006; Tapaneyasin
et al.,
2005) ปั
จจั
ยทีÉ
ส่
งเสริ
มให้
เกิ
ดการเน่
าเสี
ยได้
เร็
วขึ
Ê
น ได้
แก่
ปริ
มาณความชื
Ê
นเป็
นองค์
ประกอบหลั
จากการศึ
กษาผลิ
ตภั
ณฑ์
ขนุ
นอบกรอบตามท้
องตลาดพบว่
า ส่
วนใหญ่
จะใช้
วิ
ธี
การอบแห้
งแล้
วนํ
ามาทอด ปั
ญหาทีÉ
ตามมาคื
อ มี
ปริ
มาณนํ
Ê
ามั
นทีÉ
ตกค้
างอยู
ในเนื
Ê
อขนุ
น ทํ
าให้
เกิ
ดกลิÉ
นเหม็
นหื
นและได้
ไม่
นาน รวมทั
Ê
งยั
งเป็
นการสิ
Ê
นเปลื
องนํ
Ê
ามั
นทีÉ
ใช้
ในการ
ทอด ซึ
É
งจะเป็
นอั
นตรายต่
อผู
บริ
โภค และระยะเวลาในการตากแดดต้
องใช้
เวลานาน ซึ
É
งไม่
ทั
นต่
อความต้
องการของผู
บริ
โภค
และอี
กปั
ญหาก็
คื
อ ด้
านภู
มิ
อากาศทีÉ
ไม่
คงทีÉ
ทํ
าให้
ไม่
สามารถทํ
าการตากแห้
งได้
ตลอดเวลา แหล่
งพลั
งงานทีÉ
ใช้
ในการอบแห้
มี
หลายแบบ เช่
น การใช้
ลมร้
อนจากเครืÉ
องทํ
าความร้
อนซึ
É
งเป็
นการอบแห้
งแบบการพาความร้
อน (Jain, 2006) การอบแห้
งด้
วย
ไอนํ
Ê
าร้
อนยวดยิÉ
ง หรื
อการอบแห้
งแบบการแผ่
รั
งสี
ความร้
อน ได้
แก่
การอบแห้
งด้
วยคลืÉ
นไมโครเวฟ การอบแห้
งด้
วยคลืÉ
นรั
งสี
อิ
นฟราเรด (อํ
าไพศั
กดิ
Í
และคณะ 2549; Chua and Chou, 2005) เป็
นต้
น ปั
จจุ
บั
นปั
ญหาการขาดแคลนพลั
งงานได้
เพิÉ
มมากขึ
Ê
แหล่
งทดแทนจึ
งเป็
นทีÉ
สนใจในการนํ
ามาประยุ
กต์
ใช้
ในการอบแห้
รวมทั
Ê
งมี
การปรั
บปรุ
งเทคโนโลยี
เพิÉ
มขึ
Ê
ทํ
าให้
มี
ประสิ
ทธิ
ภาพเพิÉ
มมากขึ
Ê
น โดยนํ
ามาใช้
ในรู
ปแบบของการผสมผสาน การอบแห้
งระบบผสมผสาน (Tirawanichakul
et al.,
2004; Tirawanichakul
et al.,
2008) เป็
นวิ
ธี
การอบแห้
งทีÉ
ใช้
แหล่
งพลั
งงานตั
Ê
งแต่
2 รู
ปแบบ ขึ
Ê
นไป มาใช้
ในกระบวนการอบแห้
เช่
น พลั
งงานแสงอาทิ
ตย์
ร่
วมกั
บลมร้
อน โดยลมร้
อนอาจได้
มาจากพลั
งงานเชื
Ê
อเพลิ
งชี
วมวลหรื
อพลั
งงานไฟฟ้
า เพราะการใช้
พลั
งงานแสงอาทิ
ตย์
เพี
ยงอย่
างเดี
ยว อาจมี
ปั
ญหาเนืÉ
องจาก 1) พลั
งงานแสงอาทิ
ตย์
มี
ความไม่
สมํ
É
าเสมอ 2) พลั
งงานความร้
อนมี
อุ
ณหภู
มิ
สู
งไม่
เพี
ยงพอแก่
ความต้
องการ หรื
อเพืÉ
อต้
องการให้
ผลิ
ตผลทางการเกษตรแห้
งเร็
วขึ
Ê
ดั
งนั
Ê
นวั
ตถุ
ประสงค์
ของงานวิ
จั
ยนี
Ê
เป็
นการศึ
กษาผลของการอบแห้
งขนุ
นด้
วยแหล่
งพลั
งงานหลายรู
ปแบบ ได้
แก่
การอบแห้
งแบบผสมผสาน (ใช้
พลั
งงานแสงอาทิ
ตย์
ร่
วมกั
บพลั
งงานความร้
อนจากไฟฟ้
า) การอบแห้
งด้
วยลมร้
อนจากไฟฟ้
และการอบแห้
งด้
วยรั
งสี
อิ
นฟราเรด ต่
อจลนพลศาสตร์
การอบแห้
ง ความสิ
Ê
นเปลื
องพลั
งงานจํ
าเพาะทีÉ
ใช้
ในการอบแห้
ง และ
คุ
ณภาพของผลิ
ตภั
ณฑ์
ขนุ
วิ
ธี
การวิ
จั
วั
สดุ
เนื
Ê
อขนุ
นซื
Ê
อจากห้
างสรรพสิ
นค้
า TESCO LOTUS อํ
าเภอหาดใหญ่
จั
งหวั
ดสงขลา แล้
วนํ
ามาหาความชื
Ê
นตาม
มาตรฐาน AOAC (1995) นํ
าขนุ
นหัÉ
นตามขวาง ความหนาประมาณ 2.5+0.05 มิ
ลลิ
เมตร แล้
วนํ
ามาจั
ดเรี
ยงในถาดอบแห้
งเป็
ชั
Ê
นเดี
ยว
1...,172,173,174,175,176,177,178,179,180,181 183,184,185,186,187,188,189,190,191,192,...1102
Powered by FlippingBook