4
วิ
ธี
การวิ
จั
ย
ประชากรที่
ใช้
ในการวิ
จั
ยครั้
งนี้
คื
อ อาจารย์
ของมหาวิ
ทยาลั
ยเอกชน ในสั
งกั
ดสานั
กงานคณะกรรมการการ
อุ
ดมศึ
กษาเอกชน (สกอ.) ใช้
วิ
ธี
การเลื
อกกลุ่
มตั
วอย่
างแบบหลายขั้
นตอน (Multi-Step Sampling) ขนาดกลุ่
มตั
วอย่
างที่
ใช้
ในการวิ
จั
ยครั้
งนี้
มี
จานวน 398 ตั
วอย่
าง
เครื่
องมื
อที่
ใช้
ในการวิ
จั
ยประกอบด้
วยแบบสอบถามจานวน 40 ข้
อ ประกอบด้
วยคาถามด้
านวั
ฒนธรรมองค์
กร
การจั
ดการความรู้
ในองค์
กร และข้
อมู
ลทั่
วไป การตรวจสอบคุ
ณภาพของเครื่
องมื
อ มี
ค่
าความเชื่
อมั่
น (Reliability) ทั้
ง
ฉบั
บเท่
ากั
บ 0.98
ตั
วแปรและขอบเขตที่
ใช้
ในการศึ
กษาครั้
งนี้
แบ่
งออกเป็
น 1) ตั
วแปรอิ
สระ (Independent Variables) คื
อ
วั
ฒนธรรมองค์
กรตามแนวการศึ
กษาของ Migdadi (2005) มี
3 ตั
วแปรย่
อย ดั
งนี้
คื
อ ความไว้
วางใจ ( Trust) ความร่
วมมื
อ
(Collaboration) การเรี
ยนรู้
( Learning) 2)ตั
วแปรตาม ( Dependent Variables) คื
อ การจั
ดการความรู้
ตามแนวคิ
ดของ
Nonaka & Takeuchi (2004) ซึ่
งประกอบด้
วยตั
วแปรการปฏิ
สั
มพั
นธ์
ทางสั
งคม ( Socialization) การแลกเปลี่
ยนความรู้
(Externalization) การเชื่
อมโยงความรู้
(Combination) การนาความรู้
ไปปฏิ
บั
ติ
(Internalization)
การวิ
เคราะห์
ข้
อมู
ล ใช้
สถิ
ติ
เชิ
งพรรณนาได้
แก่
การแจกแจงความถี่
( n) ร้
อยละ ( %) ค่
าเฉลี่
ย (
x
) ส่
วน
เบี่
ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการวิ
เคราะห์
ความสั
มพั
นธ์
ระหว่
างตั
วแปร โดยใช้
สั
มประสิ
ทธิ์
สหสั
มพั
นธ์
แบบเพี
ยร์
สั
น
(Pearson’s Product Moment Correlation Coefficient) มี
กรอบแนวคิ
ดทางการวิ
จั
ยดั
งนี้
(ภาพที่
1)
ภาพที่
1
: แผนภาพกรอบแนวคิ
ดการวิ
จั
ย
ปั
จจั
ยพื้
นฐาน
วั
ฒนธรรม
องค์
กร
(Organizational
Culture
)
การจั
ดการ
ความรู้
ของ
มหาวิ
ทยาลั
ย
เอกชน
(Knowledge
Management
of Private
Universities)
ความ
ไว้
วางใจ
(Trust)
ความร่
วมมื
อ
(Collaboration)
การเรี
ยนรู้
(Learning)
การมี
ปฏิ
สั
มพั
นธ์
ทางสั
งคม
(Socialization)
การแลกเปลี่
ยน
เรี
ยนรู้
(Externalization)
การเชื่
อมโยงความรู้
(Combination)
การนาความรู้
ไป
ปรั
บใช้
สู่
การปฎิ
บั
ติ
(Internalization)