2
บทนา
ข้
าวสั
งข์
หยดเป็
นพั
นธุ
์
ข้
าวพื
้
นเมื
องที่
ปลู
กในภาคใต้
ของประเทศไทย โดยเฉพาะบริ
เวณรอบ ๆ ทะเลสาบ
สงขลา ซึ
่
งปลู
กมากที่
สุ
ดในจั
งหวั
ดพั
ทลุ
ง จั
ดเป็
นกลุ่
มข้
าวที่
มี
สี
แดง ซึ
่
งอุ
ดมไปด้
วยคุ
ณค่
าทางโภชนาการ จึ
งเหมาะ
สาหรั
บใช้
เป็
นอาหารธรรมชาติ
ที่
มี
คุ
ณค่
าต่
อสุ
ขภาพของผู
้
บริ
โภค ในปี
พ.ศ. 2547 กองโภชนาการ ได้
ทาการศึ
กษาวิ
จั
ย
อาหารชี
วจิ
ต พบว่
า ข้
าวสั
งข์
หยดมี
คุ
ณค่
าทางอาหารสู
งกว่
าข้
าวพั
นธุ
์
อื่
น ๆ กล่
าวคื
อ มี
กากใยอาหารสู
งกว่
าข้
าวพั
นธุ
์
อื่
น ๆ
จึ
งมี
ประโยชน์
ต่
อระบบขั
บถ่
าย มี
สารต้
านอนุ
มู
ลอิ
สระมากกว่
าข้
าวพั
นธุ
์
อื่
น ๆ จึ
งมี
ประโยชน์
ในการชะลอความแก่
และ
ป้
องกั
นการเกิ
ดโรคหลายชนิ
ด เช่
น โรคมะเร็
ง โรคความจาเสื่
อม และโรคหั
วใจ นอกจากนี
้
มี
โปรตี
น ธาตุ
เหล็
กและ
ฟอสฟอรั
สสู
ง ซึ
่
งมี
ประโยชน์
ในการบารุ
งโลหิ
ต บารุ
งร่
างกายให้
แข็
งแรง ผลผลิ
ตข้
าวสั
งข์
หยดในภาคใต้
มี
ประมาณ
10,000 ตั
นต่
อปี
และมี
แนวโน้
มการปลู
กเพิ่
มขึ
้
น เนื่
องจากเป็
นข้
าวเพื่
อสุ
ขภาพที่
เป็
นที่
ต้
องการของตลาด
เมื่
อนาข้
าวเปลื
อกข้
าวสั
งข์
หยดไปผ่
านกระบวนการสี
ข้
าว จะได้
ข้
าวกล้
องและข้
าวซ้
อมมื
อประมาณ 7,000 ตั
น และราข้
าว
สั
งข์
หยด ประมาณ 400 ตั
น แต่
อย่
างไรก็
ตามในปั
จจุ
บั
นนี
้
ราข้
าวที่
เหลื
อจากกระบวนการแปรรู
ปยั
งมี
การนาราข้
าวไปใช้
ประโยชน์
น้
อยมาก ราข้
าวส่
วนใหญ่
จะถู
กนาไปใช้
เป็
นอาหารสั
ตว์
ซึ
่
งมี
มู
ลค่
าต
่
า เพื่
อที่
จะสร้
างมู
ลค่
าเพิ่
มให้
กั
บวั
สดุ
เศษ
เหลื
อจากการแปรรู
ปข้
าวสั
งข์
หยด การนาราข้
าวสั
งข์
หยดไปสกั
ดน
้
ามั
นโดยวิ
ธี
บี
บเย็
น (Cold-pressed process) และการ
นาไปประยุ
กต์
ใช้
ในผลิ
ตภั
ณฑ์
เพื่
อสุ
ขภาพ จึ
งเป็
นแนวทางหนึ
่
งสาหรั
บการเพิ่
มมู
ลค่
าของวั
สดุ
เศษเหลื
อจากการแปรรู
ป
ข้
าวสั
งข์
หยด ซึ
่
งในปั
จจุ
บั
นผู
้
บริ
โภคหั
นมาให้
ความสาคั
ญกั
บสุ
ขภาพ และใส่
ใจเกี่
ยวกั
บสิ่
งแวดล้
อมมากยิ่
งขึ
้
น จึ
งส่
งผล
ให้
กรรมวิ
ธี
การผลิ
ตอาหารที่
ไม่
ใช้
สารเคมี
เป็
นกรรมวิ
ธี
ที่
ได้
รั
บการยอมรั
บของผู
้
บริ
โภคมากยิ่
งขึ
้
น ส่
งผลให้
การสกั
ด
น
้
ามั
นโดยการบี
บเย็
น โดยใช้
เครื่
องบี
บอั
ดชนิ
ดเกลี
ยว (Screw press) เป็
นที่
นิ
ยมนาไปใช้
กั
บการสกั
ดน
้
ามั
นราข้
าวสาหรั
บ
กลุ่
มเกษตรกร และผู
้
ประกอบธุ
รกิ
จขนาดกลางและขนาดย่
อม เนื่
องจากหาซื
้
อเครื่
องมื
อได้
ง่
ายในราคาไม่
สู
งจนเกิ
นไป
มี
การใช้
งานที่
ไม่
ซั
บซ้
อน รวมทั
้
งมี
ค่
าใช้
จ่
ายในการดาเนิ
นงานและซ่
อมบารุ
งต
่
า (คมสั
นต์
, 2550) ปั
จจุ
บั
นกลุ่
มเกษตรกร
ในจั
งหวั
ดพั
ทลุ
งได้
ผลิ
ตน
้
ามั
นราข้
าวบี
เย็
น แต่
อย่
างไรก็
ตาม ผู
้
ประกอบการยั
งคงประสบปั
ญหาหลั
กในด้
านคุ
ณภาพของ
น
้
ามั
นราข้
าวสั
งข์
หยดที่
มี
ค่
ากรด และค่
าเปอร์
ออกไซด์
ที่
สู
งกว่
ามาตรฐานน
้
ามั
นราข้
าวดิ
บสาหรั
บการบริ
โภค ซึ
่
งต้
องมี
ค่
า
กรดไม่
เกิ
น 4 mg KOH/g oil ค่
าเปอร์
ออกไซด์
ไม่
เกิ
น 10 mg Eqv/kg oil และกรดไขมั
นอิ
สระไม่
เกิ
น 2 % (ประกาศ
กระทรวงสาธารณะสุ
ขฉบั
บที่
205 พ.ศ. 2543) ดั
งนั
้
นการวิ
จั
ยนี
้
จึ
งมุ่
งเน้
นการพั
ฒนากระบวนการแปรรู
ปเพื่
อยกระดั
บ
คุ
ณภาพน
้
ามั
นราข้
าวสั
งข์
หยดบี
บเย็
น
โดยการให้
ความร้
อนแก่
ราข้
าวโดยการอบที่
อุ
ณหภู
มิ
สู
ง เพื่
อยั
บยั
้
งกิ
จกรรมของ
เอนไซม์
และลดปริ
มาณความชื
้
นของราข้
าว นอกจากนี
้
ได้
ใช้
เครื่
องกรองน
้
ามั
นชนิ
ดสุ
ญญากาศเพื่
อลดระยะเวลาที่
น
้
ามั
น
สั
มผั
สกั
บแสงและอากาศ
วิ
ธี
การวิ
จั
ย
การพั
ฒนากระบวนการแปรรู
ปเพื่
อยกระดั
บคุ
ณภาพน
้
ามั
นราข้
าวสั
งข์
หยดบี
บเย็
นได้
ทาการศึ
กษาดั
งนี
้
1. นาราข้
าวสั
งข์
หยดที่
ผ่
านการขั
ดสี
ใหม่
ๆ กลุ่
มวิ
สาหกิ
จชุ
มชนบ้
านเขากลาง ตาบลปั
นแต อาเภอควนขนุ
น จั
งหวั
ด
พั
ทลุ
ง ไปผ่
าน/ไม่
ผ่
านการอบ (ภาพที่
1) แล้
วนาไปสกั
ดน
้
ามั
นโดยใช้
เครื่
องบี
บอั
ดชนิ
ดเกลี
ยว (1 hp motor, Oriental
Motor, Gear Head DY9 97575, Japan) และการกรองน
้
ามั
นด้
วยกระดาษกรองที่
มี
ขนาดรู
พรุ
น 20-25 ไมโครเมตร ใน
สภาวะบรรยากาศและสุ
ญญากาศ (Vacuumbrand, ME 2C, Germany) (ภาพที่
1) ที่
บริ
ษั
ทบ้
านไทยเฮิ
ร์
บ ตาบลโตนดด้
วน
อาเภอควนขนุ
น จั
งหวั
ดพั
ทลุ
ง ซึ
่
งแบ่
งราข้
าวเป็
นชุ
ดการทดลองทั
้
งสิ
้
น 5 ชุ
ดการทดลอง (ดั
งอธิ
บายข้
างล่
าง) ชุ
ดการ
ทดลองละ 5 กิ
โลกรั
ม และในแต่
ละชุ
ดการทดลองมี
การทดลองจานวน 3 ซ
้
า