เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 238

2
บทนา
ข้
าวสั
งข์
หยดเป็
นพั
นธุ
ข้
าวพื
นเมื
องที่
ปลู
กในภาคใต้
ของประเทศไทย โดยเฉพาะบริ
เวณรอบ ๆ ทะเลสาบ
สงขลา ซึ
งปลู
กมากที่
สุ
ดในจั
งหวั
ดพั
ทลุ
ง จั
ดเป็
นกลุ่
มข้
าวที่
มี
สี
แดง ซึ
งอุ
ดมไปด้
วยคุ
ณค่
าทางโภชนาการ จึ
งเหมาะ
สาหรั
บใช้
เป็
นอาหารธรรมชาติ
ที่
มี
คุ
ณค่
าต่
อสุ
ขภาพของผู
บริ
โภค ในปี
พ.ศ. 2547 กองโภชนาการ ได้
ทาการศึ
กษาวิ
จั
อาหารชี
วจิ
ต พบว่
า ข้
าวสั
งข์
หยดมี
คุ
ณค่
าทางอาหารสู
งกว่
าข้
าวพั
นธุ
อื่
น ๆ กล่
าวคื
อ มี
กากใยอาหารสู
งกว่
าข้
าวพั
นธุ
อื่
น ๆ
จึ
งมี
ประโยชน์
ต่
อระบบขั
บถ่
าย มี
สารต้
านอนุ
มู
ลอิ
สระมากกว่
าข้
าวพั
นธุ
อื่
น ๆ จึ
งมี
ประโยชน์
ในการชะลอความแก่
และ
ป้
องกั
นการเกิ
ดโรคหลายชนิ
ด เช่
น โรคมะเร็
ง โรคความจาเสื่
อม และโรคหั
วใจ นอกจากนี
มี
โปรตี
น ธาตุ
เหล็
กและ
ฟอสฟอรั
สสู
ง ซึ
งมี
ประโยชน์
ในการบารุ
งโลหิ
ต บารุ
งร่
างกายให้
แข็
งแรง ผลผลิ
ตข้
าวสั
งข์
หยดในภาคใต้
มี
ประมาณ
10,000 ตั
นต่
อปี
และมี
แนวโน้
มการปลู
กเพิ่
มขึ
น เนื่
องจากเป็
นข้
าวเพื่
อสุ
ขภาพที่
เป็
นที่
ต้
องการของตลาด
เมื่
อนาข้
าวเปลื
อกข้
าวสั
งข์
หยดไปผ่
านกระบวนการสี
ข้
าว จะได้
ข้
าวกล้
องและข้
าวซ้
อมมื
อประมาณ 7,000 ตั
น และราข้
าว
สั
งข์
หยด ประมาณ 400 ตั
น แต่
อย่
างไรก็
ตามในปั
จจุ
บั
นนี
ราข้
าวที่
เหลื
อจากกระบวนการแปรรู
ปยั
งมี
การนาราข้
าวไปใช้
ประโยชน์
น้
อยมาก ราข้
าวส่
วนใหญ่
จะถู
กนาไปใช้
เป็
นอาหารสั
ตว์
ซึ
งมี
มู
ลค่
าต
า เพื่
อที่
จะสร้
างมู
ลค่
าเพิ่
มให้
กั
บวั
สดุ
เศษ
เหลื
อจากการแปรรู
ปข้
าวสั
งข์
หยด การนาราข้
าวสั
งข์
หยดไปสกั
ดน
ามั
นโดยวิ
ธี
บี
บเย็
น (Cold-pressed process) และการ
นาไปประยุ
กต์
ใช้
ในผลิ
ตภั
ณฑ์
เพื่
อสุ
ขภาพ จึ
งเป็
นแนวทางหนึ
งสาหรั
บการเพิ่
มมู
ลค่
าของวั
สดุ
เศษเหลื
อจากการแปรรู
ข้
าวสั
งข์
หยด ซึ
งในปั
จจุ
บั
นผู
บริ
โภคหั
นมาให้
ความสาคั
ญกั
บสุ
ขภาพ และใส่
ใจเกี่
ยวกั
บสิ่
งแวดล้
อมมากยิ่
งขึ
น จึ
งส่
งผล
ให้
กรรมวิ
ธี
การผลิ
ตอาหารที่
ไม่
ใช้
สารเคมี
เป็
นกรรมวิ
ธี
ที่
ได้
รั
บการยอมรั
บของผู
บริ
โภคมากยิ่
งขึ
น ส่
งผลให้
การสกั
ามั
นโดยการบี
บเย็
น โดยใช้
เครื่
องบี
บอั
ดชนิ
ดเกลี
ยว (Screw press) เป็
นที่
นิ
ยมนาไปใช้
กั
บการสกั
ดน
ามั
นราข้
าวสาหรั
กลุ่
มเกษตรกร และผู
ประกอบธุ
รกิ
จขนาดกลางและขนาดย่
อม เนื่
องจากหาซื
อเครื่
องมื
อได้
ง่
ายในราคาไม่
สู
งจนเกิ
นไป
มี
การใช้
งานที่
ไม่
ซั
บซ้
อน รวมทั
งมี
ค่
าใช้
จ่
ายในการดาเนิ
นงานและซ่
อมบารุ
งต
า (คมสั
นต์
, 2550) ปั
จจุ
บั
นกลุ่
มเกษตรกร
ในจั
งหวั
ดพั
ทลุ
งได้
ผลิ
ตน
ามั
นราข้
าวบี
เย็
น แต่
อย่
างไรก็
ตาม ผู
ประกอบการยั
งคงประสบปั
ญหาหลั
กในด้
านคุ
ณภาพของ
ามั
นราข้
าวสั
งข์
หยดที่
มี
ค่
ากรด และค่
าเปอร์
ออกไซด์
ที่
สู
งกว่
ามาตรฐานน
ามั
นราข้
าวดิ
บสาหรั
บการบริ
โภค ซึ
งต้
องมี
ค่
กรดไม่
เกิ
น 4 mg KOH/g oil ค่
าเปอร์
ออกไซด์
ไม่
เกิ
น 10 mg Eqv/kg oil และกรดไขมั
นอิ
สระไม่
เกิ
น 2 % (ประกาศ
กระทรวงสาธารณะสุ
ขฉบั
บที่
205 พ.ศ. 2543) ดั
งนั
นการวิ
จั
ยนี
จึ
งมุ่
งเน้
นการพั
ฒนากระบวนการแปรรู
ปเพื่
อยกระดั
คุ
ณภาพน
ามั
นราข้
าวสั
งข์
หยดบี
บเย็
โดยการให้
ความร้
อนแก่
ราข้
าวโดยการอบที่
อุ
ณหภู
มิ
สู
ง เพื่
อยั
บยั
งกิ
จกรรมของ
เอนไซม์
และลดปริ
มาณความชื
นของราข้
าว นอกจากนี
ได้
ใช้
เครื่
องกรองน
ามั
นชนิ
ดสุ
ญญากาศเพื่
อลดระยะเวลาที่
ามั
สั
มผั
สกั
บแสงและอากาศ
วิ
ธี
การวิ
จั
การพั
ฒนากระบวนการแปรรู
ปเพื่
อยกระดั
บคุ
ณภาพน
ามั
นราข้
าวสั
งข์
หยดบี
บเย็
นได้
ทาการศึ
กษาดั
งนี
1. นาราข้
าวสั
งข์
หยดที่
ผ่
านการขั
ดสี
ใหม่
ๆ กลุ่
มวิ
สาหกิ
จชุ
มชนบ้
านเขากลาง ตาบลปั
นแต อาเภอควนขนุ
น จั
งหวั
พั
ทลุ
ง ไปผ่
าน/ไม่
ผ่
านการอบ (ภาพที่
1) แล้
วนาไปสกั
ดน
ามั
นโดยใช้
เครื่
องบี
บอั
ดชนิ
ดเกลี
ยว (1 hp motor, Oriental
Motor, Gear Head DY9 97575, Japan) และการกรองน
ามั
นด้
วยกระดาษกรองที่
มี
ขนาดรู
พรุ
น 20-25 ไมโครเมตร ใน
สภาวะบรรยากาศและสุ
ญญากาศ (Vacuumbrand, ME 2C, Germany) (ภาพที่
1) ที่
บริ
ษั
ทบ้
านไทยเฮิ
ร์
บ ตาบลโตนดด้
วน
อาเภอควนขนุ
น จั
งหวั
ดพั
ทลุ
ง ซึ
งแบ่
งราข้
าวเป็
นชุ
ดการทดลองทั
งสิ
น 5 ชุ
ดการทดลอง (ดั
งอธิ
บายข้
างล่
าง) ชุ
ดการ
ทดลองละ 5 กิ
โลกรั
ม และในแต่
ละชุ
ดการทดลองมี
การทดลองจานวน 3 ซ
1...,228,229,230,231,232,233,234,235,236,237 239,240,241,242,243,244,245,246,247,248,...1102
Powered by FlippingBook