เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 247

2
บทนา
ข้
าวสั
งข์
หยดเป็
นข้
าวพั
นธุ
ข้
าวพื
นเมื
องทางภาคใต้
เยื่
อหุ
มเมล็
ดมี
สี
แดง เมล็
ดมี
ขนาดเล็
ก ยาวเรี
ยว มี
ปริ
มาณ
อะมิ
โลสต
า ซึ
งมี
ผลทาให้
ข้
าวหุ
งสุ
กมี
ความอ่
อนนุ่
ม ค่
อนข้
างเหนี
ยว รงควั
ตถุ
สี
แดงที่
พบในข้
าวมี
หน้
าที่
ในการต้
านอนุ
มู
อิ
สระ (antioxidant) อนุ
มู
ลอิ
สระมี
บทบาทสาคั
ญต่
อกระบวนการชราและการเกิ
ดโรคต่
างๆ ในมนุ
ษย์
เช่
น โรคมะเร็
โรคหั
วใจ ผลผลิ
ตข้
าวสั
งข์
หยดมี
ประมาณ 10,000 ตั
นต่
อปี
และมี
แนวโน้
มการปลู
กข้
าวสั
งข์
หยดเพิ่
มขึ
นเรื่
อย ๆ เนื่
องจากเป็
สิ
นค้
าข้
าวเพื่
อสุ
ขภาพ จึ
งทาให้
เป็
นที่
ต้
องการของตลาดและขายได้
ราคาดี
เมื่
อผ่
านการสี
แล้
วจะได้
ข้
าวกล้
องและข้
าวซ้
อมมื
ประมาณ 7,000 ตั
น และราข้
าวสั
งข์
หยด ประมาณ 400 ตั
น แต่
อย่
างไรก็
ตามในปั
จจุ
บั
นนี
ราข้
าวที่
เหลื
อจากการสี
ข้
าวยั
งมี
การ
ไปใช้
ประโยชน์
น้
อยมาก ส่
วนใหญ่
จะใช้
เป็
นอาหารสั
ตว์
ซึ
งมี
มู
ลค่
าต
า เพื่
อที่
จะสร้
างมู
ลค่
าเพิ่
มให้
กั
บวั
สดุ
เศษเหลื
อจากการ
แปรรู
ปข้
าวสั
งข์
หยด จึ
งจาเป็
นจะต้
องมี
การศึ
กษาวิ
จั
ยทางด้
านวิ
ทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
ที่
ข้
องกั
บเกี่
ยวข้
องกั
บราข้
าวและ
ามั
นราข้
าวสั
งข์
หยด ในงานวิ
จั
ยนี
ได้
ศึ
กษาวิ
ธี
การสกั
ดน
ามั
นราข้
าวสั
งข์
หยด สองวิ
ธี
คื
อ การสกั
ดด้
วยตั
วทาละลาย (เฮกเซน)
และการสกั
ดด้
วยกรรมวิ
ธี
เชิ
งกลโดยใช้
เครื่
องบี
บอั
ดชนิ
ดเกลี
ยว (การบี
บเย็
น) โดยศึ
กษาเปรี
ยบเที
ยบปริ
มาณน
ามั
นที่
สกั
ดได้
และสมบั
ติ
ทางเคมี
ของน
ามั
นราข้
าวสั
งข์
หยด ซึ
งข้
อมู
ลที่
ได้
จากการวิ
จั
ยจะมี
ความสาคั
ญอย่
างยิ่
งต่
อการกระตุ
นให้
เกิ
การศึ
กษาข้
อมู
ลทางวิ
ทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
อาหาร และการพั
ฒนาผลิ
ตภั
ณฑ์
อาหารเพื่
อสุ
ขภาพจากน
ามั
นราข้
าวพื
นเมื
อง
ของไทยสายพั
นธุ
อื่
น ๆ ซึ
งมุ่
งเน้
นในการใช้
ทรั
พยากรอย่
างคุ
มค่
าและเป็
นมิ
ตรกั
บสิ่
งแวดล้
อม
วิ
ธี
การวิ
จั
1.
การเตรี
ยมวั
ตถุ
ดิ
นาราข้
าวสั
งข์
หยดที่
ผ่
านการขั
ดสี
ใหม่
ๆ จากโรงสี
ข้
าวสั
งข์
หยด ชุ
มชนบ้
านเขากลาง หมู่
13 ตาบลปั
นแต อาเภอ
ควนขนุ
น จั
งหวั
ดพั
ทลุ
ง นาไปร่
อนผ่
านตะแกรงร่
อนขนาด 30 เมช แล้
วนาไปอบด้
วยตู
อบไฟฟ้
าที่
อุ
ณหภู
มิ
ระหว่
าง 130-150
องศาเซลเซี
ยส เป็
นระยะเวลา 15 นาที
เพื่
อยั
บยั
งการทางานของเอนไซม์
และจุ
ลิ
นทรี
ย์
(Juliano, 1985) นาราข้
าวสั
งข์
หยดที่
ผ่
านการอบไปเก็
บรั
กษาที่
อุ
ณหภู
มิ
– 20 องศาเซลเซี
ยส เพื่
อใช้
ศึ
กษาในขั
นถั
ดไป
2.
วิ
ธี
การสกั
ดน
ามั
นราข้
าวสั
งข์
หยดโดยตั
วทาละลายอิ
นทรี
ย์
นาราข้
าวสั
งข์
หยดที่
ผ่
านการเตรี
ยมข้
างต้
น ปริ
มาณ 20 กรั
ม ไปผสมกั
บเฮกเซน ในปริ
มาณที่
แตกต่
างกั
นดั
งนี
80 ml,
120 ml และ 160 ml แล้
วนาไปสกั
ดที่
อุ
ณหภู
มิ
ห้
อง (30 + 2 ºC) เป็
นเวลา 15, 30, 45 และ 60 นาที
แล้
วนาไปแยกเฮกเซนออก
โดยใช้
เครื่
องระเหยแบบสุ
ญญากาศ (Rotavapor® R-210/R-215, Buchi, Switzerland) ที่
อุ
ณหภู
มิ
ห้
อง แล้
วนาน
ามั
นที่
สกั
ดได้
ไปเก็
บรั
กษาที่
อุ
ณหภู
มิ
– 20 องศาเซลเซี
ยส
3.
การสกั
ดน
ามั
นราข้
าวสั
งข์
หยดโดยวิ
ธี
บี
บเย็
น (Cold pressing)
นาราข้
าวที่
ผ่
านการเตรี
ยมไปทาการสกั
ดน
ามั
นราข้
าวสั
งข์
หยดโดยวิ
ธี
บี
บเย็
น (Cold pressing) ณ บริ
ษั
ทบ้
านไทย
เฮิ
ร์
บ หมู่
1 ตาบลโตนดด้
วน อาเภอควนขนุ
น จั
งหวั
ดพั
ทลุ
ง โดยเครื่
องแบบสกรู
เพรสขนาดเล็
ก (มอเตอร์
2 แรงม้
า กระแส
ไฟฟ้
า 1 เฟส 220 โวลล์
โดยใช้
อั
ตราเร็
วในการบี
บอั
ดที่
แตกต่
างกั
น 3 ระดั
บ นาน
ามั
นที่
ได้
ไปกรองผ่
านกระดาษกรองน
ามั
สองชั
น คานวณปริ
มาณน
ามั
นที่
สกั
ดได้
แล้
วนาน
ามั
นไปเก็
บรั
กษาที่
อุ
ณหภู
มิ
– 20 องศาเซลเซี
ยส
4.
วิ
ธี
การวิ
เคราะห์
1. คานวณปริ
มาณน
ามั
นที่
สกั
ดได้
ตามสู
ตรดั
งนี
1...,237,238,239,240,241,242,243,244,245,246 248,249,250,251,252,253,254,255,256,257,...1102
Powered by FlippingBook