เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 249

4
เย็นให้ปริ มาณน้ ามันราข้าวได้น้อยกว่าการสกัดด้วยเฮกเซน โดยทั่วไปแล้วการสกัดน้ ามันโดยการใช้เฮกเซนสามารถสกัดได้
น้ ามันในปริ มาณที่สูง และต้นทุนในการผลิตต่า แต่มีปั ญหาสาคัญในด้านสุขภาพ ได้ แก่ ความปลอดภัยของผู ้ บริ โภคและ
ผู้ปฏิ บัติงาน รวมทั้งปั ญหาความเป็ นพิ ษต่อสิ่ งแวดล้อม ซึ่ งปั ญหาต่ าง ๆ เหล่านี้ ส่งผลให้ มีการสกัดน้ ามันราข้าวโดยใช้
สารละลายอินทรี ย์ และวิธีการสกัดอื่น ๆ ที่ มีความปลอดภัยและเป็ นพิษต่อสิ่ งแวดล้อมน้อยกว่าเฮกเซน การสกัดน้ ามันราข้าว
โดยวิธี การบีบเย็นจึงเป็ นวิธีการสกัดที่นิ ยมใช้ในการสกัดน้ ามันราข้าวในปัจจุบันเนื่ องจากมีความปลอดภัยและไม่เป็ นพิษต่อ
สิ่งแวดล้อม ทั้ ง ๆ ที่ให้ปริ มาณน้ ามันที่น้อยและต้นทุนการผลิตสู งกว่าการสกัดด้วยเฮกเซน (Godber, 2008)
ภาพที่ 1 ปริ มาณน้ามันที่สกัดได้ของน้ ามันราข้าวสังข์หยดที่ ผ่านการสกัดด้วยเฮกเซนและการบีบเย็น
ตารางที่ 1 แสดงสมบัติทางเคมี ของน้ ามันราข้าวสังข์หยดที่ผ่านการสกัดด้วยเฮกเซนและการบีบเย็น น้ ามันราข้าว
สังข์ หยดมี ค่ากรด (acid value) ค่าเปอร์ ออกไซด์ (peroxide value), ค่าไอโอดี น (iodine number) และค่ากรดไขมันอิสระ
(free fatty acid value) ดังนี้ 8.32- 10.24 mg Eqv/kg, 9.64-12 mgKOH/g oil, 95.48-102.28 และ 4.18-5.14% ซึ่ งให้ผลการ
ทดลองเป็ นไปในทางเดี ยวกันกับการศึ กษาของ Mezouari et al. (2006) ได้รายงานว่าน้ ามันราข้าวของไทย มีค่ากรด ค่ าเปอร์
ออกไซด์ และ ค่าไอโอดีน เป็ น 12 mgKOH/g oil, 9.80 meq/kg และ 90 ตามลาดับ จากการทดลองพบว่าน้ ามันราข้าว
สังข์หยดที่ ผ่านการสกัดโดยวิธี บีบเย็นมี ค่ากรด ค่าเปอร์ออกไซด์ ค่ากรดไขมันอิสระ ต่ากว่าน้ ามันราข้าวสั งข์หยดที่สกัดด้วย
เฮกเซน จากการทดลองนี้ แสดงให้เห็นว่าการสกัดน้ามันราข้าวสังข์หยดโดยใช้วิ ธีการบีบเย็ นได้น้ ามันราข้าวสังข์หยดที่มี
คุณภาพทางเคมี ดีกว่าน้ ามันราข้าวสั งข์หยดที่ผ่านการสกัดด้วยเฮกเซน อาจจะเนื่องมาจากน้ ามันราข้าวสังข์ หยดบีบเย็นเกิ ด
การเปลี่ ยนแปลงทางเคมีของไขมันอันเนื่องมาจากปฏิ กิ ริ ยาออกซิเดชันและปฏิกิ ริ ยาไฮโดรลิซิสได้น้อยกว่ าการสกัดน้ามั นรา
ข้าวสังข์หยดโดยใช้เฮกเซน