เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 241

5
รั
กษาราข้
าวจนถึ
งการสกั
ดโดยนาราข้
าวสดไปเก็
บรั
กษาในถุ
งพลาสติ
ก แล้
ววางไว้
ที่
อุ
ณหภู
มิ
ห้
องเป็
นระยะเวลา 48
ชั่
วโมง แล้
วนามาสกั
ดน
ามั
นโดยวิ
ธี
การบี
บเย็
น โดยศึ
กษาเปรี
ยบเที
ยบกั
บราข้
าวที่
ผ่
านการให้
ความร้
อนโดยการอบที่
อุ
ณหภู
มิ
150
0
C เป็
นเวลา 10 นาที
แล้
วตั
งให้
เย็
น (T4) และการเก็
บรั
กษาราข้
าวที่
ผ่
านการอบในถุ
งพลาสติ
ก แล้
ววางไว้
ที่
อุ
ณหภู
มิ
ห้
องเป็
นระยะเวลา 48 ชั่
วโมง ( T5) แล้
วนามาสกั
ดน
ามั
นโดยวิ
ธี
การบี
บเย็
น เมื่
อเปรี
ยบเที
ยบกั
บการสกั
ดน
ามั
นที่
สกั
ดทั
นที
(T2) พบว่
าระยะเวลาในการเก็
บรั
กษาราข้
าวสดมี
ผลอย่
างยิ่
งต่
อคุ
ณภาพของน
ามั
น โดยเฉพาะการเพิ่
มขึ
นของ
ค่
ากรด (34.97 mg KOH/g oil) ค่
ากรดไขมั
นอิ
สระ (17.57%) และค่
าเปอร์
ออกไซด์
(35.66 mg Eqv/kg oil) แต่
หากมี
การ
อบราข้
าวก่
อนแล้
วสกั
ดทั
นที
(T4) หรื
อนาไปเก็
บรั
กษาที่
อุ
ณหภู
มิ
ห้
องเป็
นเวลา 48 ชั่
วโมง ( T5) พบว่
าค่
ากรด ค่
ากรด
ไขมั
นอิ
สระ และค่
าเปอร์
ออกไซด์
มี
ค่
าต
ากว่
าน
ามั
นที่
ได้
จากกระบวน T2 เล็
กน้
อย (ตารางที่
3) โดยมี
ค่
ากรดเป็
น 6.02-
6.96 mg KOH/g oil ค่
ากรดไขมั
นอิ
สระ 3.03-3.50% และค่
าเปอร์
ออกไซด์
12.45-13.72 mg Eqv/kg oil ซึ
งมี
ค่
าใกล้
เคี
ยง
กั
บมาตรฐานน
ามั
นพื
ชดิ
บที่
ใช้
สาหรั
บการบริ
โภคของประเทศไทย (ตารางที่
4) แสดงให้
เห็
นว่
าการให้
ความร้
อนแก่
รา
ข้
าวก่
อนนาไปสกั
ดโดยการบี
บเย็
น สามารถรั
กษาปริ
มาณสารต้
านออกซิ
เดชั
น และกิ
จกรรมการต้
านออกซิ
เดชั
นของ
ามั
นราข้
าวสั
งข์
หยดบี
บเย็
นได้
จากการทดลองนี
เห็
นได้
ว่
ากระบวนการแปรรู
ป T4 และ T5 สามารถให้
ปริ
มาณน
ามั
นที่
สกั
ดได้
และคุ
ณภาพของน
ามั
นดี
ที่
สุ
ด เพื่
อให้
สามารถนาข้
อมู
ลไปประยุ
กต์
ใช้
ต่
อและมี
ความเป็
นไปได้
ทางปฏิ
บั
ติ
จริ
รวมทั
งการกรองแบบสุ
ญญากาศสามารถรั
กษาปริ
มาณสารต้
านออกซิ
เดชั
น และกิ
จกรรมการต้
านออกซิ
เดชั
นของน
ามั
ราข้
าวได้
(ตารางที่
4) เมื่
อศึ
กษากระบวนการทาให้
ราข้
าวมี
ความคงตั
ว การให้
ความร้
อนแก่
ราข้
าวสั
งข์
หยดที่
สดใหม่
โดยการอบราข้
าวที่
อุ
ณหภู
มิ
150 องศาเซลเซี
ยส เป็
นเวลา 10 นาที
(T4-T5) โดยเปรี
ยบเที
ยบกั
บราข้
าวที่
ไม่
ผ่
านการให้
ความร้
อน (T3) พบว่
าการให้
ความร้
อนแก่
ราข้
าว สามารถลดค่
ากรด ค่
ากรดไขมั
นอิ
สระ และค่
าเปอร์
ออกไซด์
ได้
อย่
างมี
ประสิ
ทธิ
ภาพ โดยความร้
อนทาให้
ราข้
าวมี
ความคงตั
ว ซึ
งอาจจะมี
ผลในการยั
บยั
งการทางานของเอนไซม์
ในราข้
าว จะ
เห็
นได้
ว่
าถึ
งแม้
จะนาราข้
าวไปเก็
บรั
กษาเป็
นเวลา 48 ชั่
วโมง แล้
วนาไปสกั
ดน
ามั
นและใช้
กระบวนการกรองแบบ
สุ
ญญากาศ (T5) น
ามั
นราข้
าวสั
งข์
หยดยั
งคงมี
ค่
ากรด ค่
ากรดไขมั
นอิ
สระ และค่
าเปอร์
ออกไซด์
ในระดั
บใกล้
เคี
ยงกั
มาตรฐานน
ามั
นพื
ชสาหรั
บบริ
โภค เช่
นเดี
ยวกั
บการอบราข้
าวแล้
วสกั
ดและกรองน
ามั
นภายในเวลา 2 ชั่
วโมง (T4) (ตาราง
ที่
3) และยั
งคงกิ
จกรรมการต้
านอนุ
มู
ลอิ
สระได้
ไม่
แตกต่
างจากน
ามั
นราข้
าวสด (ตารางที่
4) ศิ
ริ
และคณะ (2540)
รายงานว่
าเอนไซม์
ไลเพสจากราข้
าวหอมไทย ยั
งมี
เสถี
ยรภาพในช่
วงพี
เอชตั
งแต่
4-9 และช่
วงอุ
ณหภู
มิ
ตั
งแต่
20-45
0
C แต่
เอนไซม์
ไลเพสนี
สู
ญเสี
ยกิ
จกรรมเอนไซม์
อย่
างสิ
นเชิ
งที่
อุ
ณหภู
มิ
50
0
C เป็
นระยะเวลานาน 60 นาที
ซึ
งผลการทดลองนี
เป็
นไปแนวทางเดี
ยวกั
บการศึ
กษาของ คงศั
กดิ
และคณะ (2553) ซึ
งรายงานว่
าการอบราข้
าวที่
อุ
ณหภู
มิ
70
0
C เป็
ระยะเวลา 3 ชั่
วโมง ก่
อนนาราข้
าวไปสกั
ดด้
วยเครื่
องบี
บอั
ดชนิ
ดเกลี
ยว นอกจากจะทาให้
ผลผลิ
ตเพิ่
มขึ
นแล้
ว ยั
งส่
งผลให้
ามั
นราข้
าวที่
ได้
มี
คุ
ณภาพดี
ขึ
น โดยพบว่
า มี
ค่
าเปอร์
ออกไซด์
และปริ
มาณกรดไขมั
นอิ
สระลดลง ดั
งนั
นวิ
ธี
การควบคุ
คุ
ณภาพที่
เหมาะสม คื
อการควบคุ
มที่
วั
ตถุ
ดิ
บราข้
าว ผู
ประกอบการจาเป็
นต้
องใช้
ราข้
าวที่
มี
คุ
ณภาพสดใหม่
หากจะใช้
กระบวนการบี
บเย็
นในการผลิ
ต ราข้
าวที่
ได้
จากการสี
ข้
าวใหม่
จะมี
เอ็
นไซม์
ไลเพสที่
สามารถทาปฏิ
กิ
ริ
ยาและทาให้
ปริ
มาณกรดไขมั
นอิ
สระสู
งขึ
นอย่
างรวดเร็
วเป็
น 5-25 % ภายในระยะเวลา 1 สั
ปดาห์
(Goffman et al., 2003) นอกจากนี
ยั
พบว่
าการให้
ความร้
อนแก่
ราข้
าวก่
อนนาไปสกั
ดน
ามั
นโดยวิ
ธี
บี
บเย็
นสามารถเพิ่
มปริ
มาณน
ามั
นราข้
าวที่
สกั
ดได้
เนื่
องจาก
กระบวนการให้
ความร้
อนสามารถไปทาให้
ผลั
งเซลล์
ของพื
ชเกิ
ดการสู
ญเสี
ยสภาพซึ
งส่
งผลให้
ามั
นสามารถที่
จะแยกตั
ออกมาจากเซลล์
พื
ชได้
ง่
ายขึ
น (Uquiche et al., 2008)
1...,231,232,233,234,235,236,237,238,239,240 242,243,244,245,246,247,248,249,250,251,...1102
Powered by FlippingBook