อภิ
ปรายผลการวิ
จั
ย
ผลการศึ
กษาครั้
งนี้
ทํ
าให
ทราบว
า ภายหลั
งการประกาศใช
พระราชบั
ญญั
ติ
การศึ
กษาแห
งชาติ
พ.ศ. 2542 และที่
แก
ไขเพิ่
มเติ
ม (ฉบั
บที่
2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบั
บที่
3) พ.ศ. 2553 ครู
ที่
สอนระดั
บมั
ธยมศึ
กษามี
ความตื่
นตั
วในเรื่
องการ
ปฏิ
รู
ปการศึ
กษาที่
เน
นกระบวนการวิ
จั
ยในชั้
นเรี
ยนมากขึ้
น ดั
งผลการศึ
กษาครู
โรงเรี
ยนหาดใหญ
วิ
ทยาคาร ครู
เคยผ
านการ
อบรม คิ
ดเป
นร
อยละ 56.82 และเล็
งเห็
นถึ
งความสํ
าคั
ญของการทํ
าวิ
จั
ยในชั้
นเรี
ยนเป
นอย
างมากเพื่
อที่
จะปรั
บเปลี่
ยนและ
พั
ฒนาการเรี
ยนการสอนให
ดี
ยิ่
งขึ้
น จากผลการวิ
จั
ยดั
งกล
าวซึ่
งสอดคล
องกั
บ (พิ
ชิ
ต ฤทธิ์
จรู
ญ, 2544 : 11) ได
กล
าวไว
ว
า
การทํ
าวิ
จั
ยในชั้
นเรี
ยนนั้
นส
งผลต
อสถานศึ
กษา ตั
วครู
เอง นั
กเรี
ยน และสามารถที่
จะพั
ฒนาวิ
ชาชี
พเพื่
อช
วยขยายองค
ความรู
(Body of Knowledge) เทคนิ
คการสอน นวั
ตกรรมด
านการเรี
ยนการสอนสํ
าหรั
บครู
เป
นการพั
ฒนาการทํ
างานของ
ครู
ให
มี
มาตรฐานยิ่
งขึ้
น
ในด
านป
ญหาในการทํ
าวิ
จั
ยในชั้
นเรี
ยนของครู
นั้
น ผู
วิ
จั
ยได
แบ
งประเด็
นป
ญหาไว
ดั
งนี้
ป
ญหาด
านบุ
คลากร พบว
า ครู
มี
ภาระสอนมาก อาจเป
นเพราะว
า ครู
มี
ภาระงานที่
นอกเหนื
อจากการสอนแล
ว
เช
นรั
บผิ
ดชอบครู
ประจํ
าชั้
น งานวิ
ชาการ และงานอื่
นๆที่
ได
รั
บมอบหมาย ส
งผลให
ไม
มี
เวลาที่
เพี
ยงพอต
อการทํ
าวิ
จั
ยใน
ชั้
นเรี
ยนอย
างจริ
งจั
ง
ป
ญหาด
านงบประมาณ พบว
า ไม
มี
เงิ
นอุ
ดหนุ
นการทํ
าเอกสารในการทํ
าวิ
จั
ยในชั้
นเรี
ยน อาจเป
นเพราะว
าทาง
โรงเรี
ยนไม
ได
จั
ดสรรงบประมาณในการทํ
าวิ
จั
ยเช
น งบการสร
างสื่
อการสอน หรื
อนวั
ตกรรมที่
ใช
ในการวิ
จั
ย ส
งผลให
ครู
ไม
มี
แรงจู
งใจในการทํ
าวิ
จั
ยในชั้
นเรี
ยน
ป
ญหาด
านบริ
หารจั
ดการและการจั
ดการวางแผนการดํ
าเนิ
นงานในโรงเรี
ยน พบว
า ครู
ยั
งขาดความรู
ในการนํ
า
ผลการวิ
จั
ยไปใช
เนื่
องจากครู
ได
ทํ
าวิ
จั
ยในชั้
นเพื่
อประกอบเป
นหลั
กฐานในการประเมิ
นครู
โดยไม
ได
คํ
านึ
งถึ
งการนํ
า
ผลการวิ
จั
ยไปปรั
งปรุ
งนั
กเรี
ยน ส
งผลให
เป
นป
ญหาที่
ต
องช
วยกั
นดํ
าเนิ
นการแก
ไขเพื่
อเปลี่
ยนทรรศนะคติ
ของครู
ป
ญหาด
านวั
สดุ
และอุ
ปกรณ
พบว
า เครื่
องมื
อสํ
าหรั
บสร
างสื่
อการเรี
ยนรู
และห
องสมุ
ดมี
ไม
เพี
ยงพอ อาจเป
น
เพราะว
าครู
ยั
งขาดความรู
เรื่
องการผลิ
ตสื่
อและนวั
ตกรรม รวมทั้
งยั
งขาดงานวิ
จั
ยในชั้
นเรี
ยนเพื่
อเป
นแนวทางให
ครู
ได
ทํ
า
วิ
จั
ยตลอดจนเพื่
อเป
นแนวทางในการพั
ฒนางานวิ
จั
ยให
มี
ประสิ
ทธิ
ภาพ และคุ
ณภาพยิ่
งขึ้
นส
งผลกระทบให
ครู
ล
าช
าในการ
ทํ
าวิ
จั
ยในชั้
นเรี
ยน
ป
ญหาด
านระเบี
ยบวิ
ธี
วิ
จั
ย ซึ่
งเป
นป
ญหาใหญ
ของครู
คื
อ ป
ญหาขั้
นการวางแผน พบว
า การออกแบบวิ
จั
ย ซึ่
ง
ต
องใช
ความรู
และทั
กษะกอปรกั
บการทํ
าวิ
จั
ย ซึ่
งครู
บางคนไม
ได
จบคณะศึ
กษาศาสตร
แต
ได
ไปเรี
ยนวิ
ชาชี
พครู
แต
ความรู
ที
่
ได
รั
บยั
งไม
เพี
ยงพอต
อการทํ
าวิ
จั
ยในชั้
นเรี
ยน โดยเฉพาะการออกแบบการวิ
จั
ยซึ่
งเป
นหั
วใจหลั
กในการทํ
าวิ
จั
ย สํ
าหรั
บ
ป
ญหาขั้
นดํ
าเนิ
นการ พบว
า การวิ
เคราะห
ข
อมู
ล ยั
งคงเป
นป
ญหาสํ
าหรั
บครู
เนื่
องมาจากครู
ที่
ได
ทํ
าวิ
จั
ยเชิ
งปริ
มาณต
องใช
สถิ
ติ
มาตอบโจทย
ป
ญหา แต
ครู
ยั
งไม
สามารถที่
จะวิ
เคราะห
ข
อมู
ลได
อย
างมี
ประสิ
ทธิ
ภาพ อี
กทั้
งป
ญหาขั้
นสรุ
ปผลการวิ
จั
ย
พบว
า ครู
อภิ
ปรายผลการวิ
จั
ยยั
งไม
ชั
ดเจน อาจเป
นเพราะว
า ครู
ไม
ได
อ
านงานวิ
จั
ยของครู
อื่
น ๆ ที่
ได
ทํ
าการวิ
จั
ยก
อนหน
านี้
และขาดครู
ต
นแบบในการทํ
าวิ
จั
ย ส
งผลให
ครู
ไม
สามารถที่
จะอภิ
ปรายผลได
อย
างถู
กต
อง
ผลการศึ
กษาครั้
งนี้
สะท
อนให
เห็
นว
า ครู
ยั
งมี
ความรู
และความเข
าใจเกี่
ยวกั
บระเบี
ยบวิ
ธี
วิ
จั
ยที่
ใช
ในการวิ
จั
ยใน
ชั้
นเรี
ยน โดยภาพรวม อยู
ในระดั
บปานกลาง (
μ
=2.959) ซึ่
งสอดคล
องกั
บงานวิ
จั
ยของ (ป
ญจพร เพิ่
มกํ
าลั
งพล, 2551)
พบว
า ครู
ผู
สอนมี
สภาพป
ญหาการทํ
าวิ
จั
ยในชั้
นเรี
ยนโดยรวมอยู
ในระดั
บ ปานกลาง (
Χ
=2.64) แต
เมื่
อพิ
จารณาเป
นราย
ข
อ พบว
า บางข
อที่
มี
ความรู
อยู
ในระดั
บน
อย คื
อ ความรู
ความเข
าใจในการออกแบบวิ
จั
ยต
างๆที่
ใช
ในการวิ
จั
ยในชั้
นเรี
ยน
(
μ
=2.273) และความสามารถหาวิ
ธี
การหรื
อนวั
ตกรรมมาใช
การวิ
จั
ยได
อย
างเหมาะสม (
μ
=2.455) ดั
งผลการศึ
กษาของ
Solzbacher (2006) พบว
า การออกแบบการวิ
จั
ยเปรี
ยบเสมื
อนการวางโครงสร
างของบ
าน ซึ่
งอาจมี
รู
ปแบบ โครงสร
าง