เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 887

การที่
ผลสั
มฤทธิ
ทางการเรี
ยนโดยวั
ดจากคะแนนในการตอบข้
อสอบประเภทอั
ตนั
ยในรายวิ
ชา
การจั
ดการการผลิ
ตของผู
เรี
ยน ภายหลั
งที่
ผู
เรี
ยนได้
ฝึ
กทั
กษะด้
วยแบบฝึ
กทั
กษะการเขี
ยนตอบข้
อสอบประเภทอั
ตนั
ที่
คณะผู
วิ
จั
ยสร้
างขึ
นสู
งกว่
าก่
อนที่
ผู
เรี
ยนได้
รั
บการฝึ
กทั
กษะนั
น เนื่
องจากก่
อนได้
รั
บการฝึ
กทั
กษะ ผู
เรี
ยนไม่
มี
ทิ
ศทาง
หรื
อแนวทางในการตอบคาถามในการเขี
ยนตอบข้
อสอบประเภทอั
ตนั
ยแต่
อย่
างใด จากการศึ
กษาจากการเขี
ยนตอบข้
อสอบ
ประเภทอั
ตนั
ยชุ
ดที่
(ก่
อนการฝึ
กทั
กษะ) พบว่
าการเขี
ยนคาตอบไม่
ตรงประเด็
น ตอบคาถามไม่
ครบถ้
วน ขาดการนาเสนอ
ข้
อมู
ลโดยการใช้
หลั
กการ แนวคิ
ด ทฤษฎี
ในประเด็
นนั
น ๆ ประกอบคาตอบ ผู
เรี
ยนไม่
ยกตั
วอย่
างประกอบที่
มี
ความชั
ดเจน
และตรงประเด็
นมาขยายความในการตอบให้
ชั
ดเจนยิ่
งขึ
น แนวทางในการเรี
ยบเรี
ยงตลอดจนการใช้
ภาษาไม่
ชั
ดเจน วนไปมา
ไม่
มี
จุ
ดเน้
น ขาดจุ
ดมุ่
งหมาย เป็
นการเขี
ยนไปเรื่
อย ๆ เนื่
องจากผู
เรี
ยนขาดการวางแผนผั
งความคิ
ดล่
วงหน้
า ว่
าจะเขี
ยนตอบ
กี่
ประเด็
น และแต่
ละประเด็
นจะนาเสนอเนื
อหาอะไรบ้
าง แต่
หลั
งจากผู
เรี
ยนได้
รั
บการฝึ
กทั
กษะการเขี
ยนตอบข้
อสอบประเภท
อั
ตนั
ย คะแนนที่
ได้
จากการตอบข้
อสอบประเภทอั
ตนั
ยในข้
อสอบชุ
ดที่
มี
คะแนนสู
งขึ
น เนื่
องจากผู
เรี
ยนสามารถแก้
ไข
จุ
ดบกพร่
องต่
าง ๆ ที่
ได้
กล่
าวไว้
ข้
างต้
นได้
ดี
ในระดั
บหนึ
ง ซึ
งสอดคล้
องกั
บงานวิ
จั
ยของกมล โพธิ
เย็
น ( ) ที่
กล่
าวว่
า ผู
ตอบ
ข้
อสอบในลั
กษณะคาถามประเภทนี
จะต้
องพยายามรวบรวมข้
อมู
ลความรู
สาคั
ญในสิ่
งที่
ข้
อสอบถามให้
ได้
มากที่
สุ
และนามาจั
ดลาดั
บความคิ
ดเหล่
านี
ให้
เป็
นหมวดหมู่
และเขี
ยนเรี
ยบเรี
ยงประเด็
นความคิ
ดให้
ถู
กต้
องตรงตามคาถาม
การที่
ผู
เรี
ยนมี
ระดั
บความคิ
ดเห็
นในภาพรวมที่
มี
ต่
อการได้
รั
บการฝึ
กทั
กษะการเขี
ยนตอบข้
อสอบ
ประเภทอั
ตนั
ยที่
คณะผู
วิ
จั
ยสร้
างขึ
นอยู่
ในระดั
บมาก เป็
นเพราะว่
าวิ
ธี
การดาเนิ
นกิ
จกรรมในการฝึ
กทั
กษะเน้
นการนาเสนอ
แนวทางปฏิ
บั
ติ
ที่
เป็
นรู
ปธรรมอย่
างชั
ดเจน นาไปสู่
เป้
าหมายที่
มี
ลาดั
บขั
นตอนอย่
างชั
ดเจน ผู
เรี
ยนสามารถดาเนิ
นการเขี
ยนตอบ
ข้
อสอบประเภทอั
ตนั
ยได้
ตามขั
นตอนและแนวทางที่
รู
ปแบบได้
กาหนดไว้
นอกจากนี
กิ
จกรรมดั
งกล่
าวยั
งเป็
นกิ
จกรรม
ที่
เน้
นการทางานเป็
นกลุ่
ม ทาให้
ผู
เรี
ยนมี
โอกาสใช้
ปฏิ
สั
มพั
นธ์
ระหว่
างกั
น ซี่
งเป็
นประโยชน์
ในการช่
วยกั
นระดมสมอง
และวางแผนผั
งโครงร่
างความคิ
ด เพื่
อกาหนดกรอบการตอบข้
อสอบประเภทอั
ตนั
ยให้
เกิ
ดประสิ
ทธิ
ภาพสู
งสุ
ด ปฏิ
สั
มพั
นธ์
เป็
นหั
วใจสาคั
ญของระบบไม่
ใช่
เป็
นการมองอย่
างแยกส่
วนที่
ละองค์
ประกอบ เพราะระบบจะเกิ
ดขึ
นได้
เนื่
องจากการเชื่
อมโยง
เข้
ากั
นอย่
างลงตั
ว (ฤทั
ยรั
ตน์
ธรเสนา, )
ข้
อเสนอแนะ
คณะผู
วิ
จั
ยมี
ข้
อเสนอแนะ ดั
งประเด็
นต่
อไปนี
พั
ฒนารู
ปแบบการฝึ
กทั
กษะการเขี
ยนตอบข้
อสอบแบบอั
ตนั
ย ไปสู่
ระบบ E-learning เพื่
อให้
ผู
เรี
ยน
ได้
มี
โอกาสฝึ
กฝนทั
กษะด้
วยตนเองในช่
วงเวลาที่
ว่
างจากเรี
ยนในชั
นเรี
ยน
นารู
ปแบบการฝึ
กทั
กษะการเขี
ยนตอบข้
อสอบประเภทอั
ตนั
ย ไปใช้
ในการฝึ
กทั
กษะในรายวิ
ชาอื่
น ๆ
เพื่
อให้
ผลสั
มฤทธิ
ทางการเรี
ยนของนั
กศึ
กษาเกิ
ดประสิ
ทธิ
ภาพสู
งยิ่
งขึ
เอกสารอ้
างอิ
กมล โพธิ
เย็
น. ( ).
รู
ปแบบการพั
ฒนาความคิ
ดอย่
างเป็
นระบบเพื่
อสร้
างเสริ
มความสามารถ ด้
วยทั
กษะการเขี
ยน
ภาษาไทยของนั
กศึ
กษาระดั
บปริ
ญญาตรี
โดยใช้
แนวคิ
ดทฤษฎี
ไตรอาร์
ขิ
กและวิ
ธี
การสแกฟโฟลด์
.
วิ
ทยานิ
พนธ์
ระดั
บปริ
ญญาเอก ปรั
ชญาดุ
ษฎี
บั
ณฑิ
ต สาขาวิ
ชาวิ
จั
ยและจิ
ตวิ
ทยาการศึ
กษา. กรุ
งเทพฯ : จุ
ฬาลงกรณ์
มหาวิ
ทยาลั
ย.
1...,877,878,879,880,881,882,883,884,885,886 888,889,890,891,892,893,894,895,896,897,...1102
Powered by FlippingBook