การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยทักษิณ 2559 - page 90

89
บทนำ
สังคมการบริโภคในปัจจุ บันได้ ให้ความสาคัญเกี่ยวกับการดูแลสุ ขภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งเห็ นได้จากผู้คนหันมาบริ โภค
อาหารจาพวกพืชผักและผลไม้ที่เป็นประโยชน์ ต่อร่างกายมากขึ้น และพยายามหลีกเลี่ยงการบริโภคพืชผักบางชนิดที่มีการ
แจ้งเตื อนว่ามีการสะสมสารที่อาจส่งผลกระทบกับสุขภาพ โดยเฉพาะกรดออกซาลิกในพืชบางชนิดที่อาจก่อให้เกิดปัญหา
กับร่างกาย มีรายงานปริมาณกรดออกซาลิ กที่สะสมในพื ชผักแต่ ละชนิด เช่ น แครอท ผักโขม ปวยเล้ง ผักชีฝรั่ ง มีการ
สะสมกรดออกซาลิก 500 มิลลิกรัม, 1,090 มิลลิกรัม, 970 มิลลิกรัม, 1,700 มิ ลลิกรัมต่อ 100 กรั ม [1] คนจานวนไม่น้อย
มีความเข้ าใจว่า ผักที่ อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมายนั้น เมื่อรับประทานควรเลือกรับประทานแบบสดเพื่อไม่ ให้
เสียคุ ณค่าทางโภชนาการของผักไป แต่ ทว่าการรับประทานแบบดังกล่ าวอาจก่อให้เกิ ดผลกระทบต่อสุ ขภาพตามมาใน
ภายหลังได้ เนื่ องจากกรดออกซาลิกจะไปรวมตัวกั บธาตุอื่ นๆ กลายเป็นผลึกออกซาเลต เช่น แคลเซี ยมออกซาเลต
โซเดียมออกซาเลต และโพแทสเซียมออกซาเลต ซึ่งจะเป็นอั นตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค ทาให้เกิ ดโรคนิ่วในไตและใน
ทางเดินปัสสาวะได้ นอกจากนี้ ออกซาเลตสามารถเข้าสู่กระแสเลือดและไปจับกั บแคลเซียมในเลือดทาให้ปริ มาณแคลเซียม
ในเลือดลดลงเกิดอาการ Hypocalcemia มี ผลทาให้เลื อดแข็งตั วช้าหากเกิดการบาดเจ็ บ รวมทั้งอาจทาให้กล้ ามเนื้อ
ผิดปกติ อีกด้วย [2]
ในการรายงานปริมาณกรดออกซาลิกในพืชชนิ ดต่างๆ จะมีข้อจากัดที่ยั งไม่ครอบคลุม ผั กที่นิยมรับประทานบาง
ประเภท ยังไม่มีผู้ รายงานปริมาณออกซาลิก ที่ จะช่วยให้ ผู้บริโภคได้ตระหนั กถึงอันตรายหากได้ รั บมากเกินไป สาเหตุ ที่ยัง
ไม่มีรายงานเกี่ยวกั บกรดออกซาลิกในพืชหลายชนิด เนื่องจากออกซาลิกในพืชจะมี ความเข้มข้นต่า (Trace analysis) ต้ อง
อาศัยเทคนิคการใช้ วิธีวิเคราะห์ ขั้นสูง คือ HPLC (High Performance Liquid Chromatography) ซึ่งมีต้นทุนการ
วิเคราะห์สูง และต้องเป็นผู้เชี่ ยวชาญเฉพาะทางที่สามารถเตรียมตัวอย่างและดาเนิ นการวิเคราะห์ ได้ อย่างไรก็ ตามหาก
พิจารณาคุณสมบัติความสามารถในการเกิดปฏิกิ ริยาของกรดออกซาลิ กแล้ว พบว่าสามารถทาปฏิ กิ ริยากั บสารเคมีได้หลาย
ชนิด เมื่อต้องการวิเคราะห์ เชิงปริมาณการตรวจวัดผลิ ตภัณฑ์ที่ได้ในรูปของการวัดค่าการดูดกลื นแสงถือว่าเป็นเทคนิคที่ไม่
ยุ่งยาก และต้นทุนต่ า
จากปัญหาที่กล่าวมาข้ างต้น ผู้วิจัยจึงสนใจวิเคราะห์ปริมาณกรดออกซาลิกในพืชผักชนิดต่างๆที่อยู่ในกระแสการ
บริโภคโดยเทคนิคยูวิ – วิสิ เบิลสเปกโทรสโกปี โดยใช้เทคนิคใหม่ที่อาศัยการทาปฏิ กิริ ยากันระหว่างกรดออกซาลิกกับ
สารละลายคริสตั ลไวโอเลต รวมทั้งศึกษาเปรียบเทียบการลดปริมาณกรดออกซาลิกในพืชโดยการให้ความร้อน เพื่อเป็น
ข้อมู ลทางเลือกสาหรับผู้บริโภค ที่ จะป้ องกันปัจจั ยเสี่ยงเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพอันเกิดจากการได้ รับกรดออกซาลิ กที่มีใน
พืชผักชนิดต่างๆ
วิธีกำรวิจัย
1.การหาความยาวคลื่นที่เหมาะสมในการตรวจวั ดผลิตภัณฑ์ที่ เกิดขึ้ นจาก ปฏิกิ ริยาระหว่ าง กรดออกซาลิก กับ
สารละลายคริสตัลไวโอเลต และหาเวลาที่เหมาะสมในการตรวจวั ดเนื่องจากเป็นปฏิกิริ ยาที่เกิดช้า
2.หาสภาวะที่ เหมาะสมในการทดลองโดยใช้สารละลายมาตรฐานกรดออกซาลิก ความเข้มข้น 0.01, 0.02, 0.04,
0.06 และ 0.08 M ทาปฏิกิ ริยากับสารละลายคริสตัลไวโอเลตที่ความเข้ มข้น 6.4 × 10-5M แล้ วนาไปวัดค่าการดูดกลื นแสง
ด้วยเครื่องยูวี – วิสิ เบิลสเปกโทรโฟโตมิเตอร์ (UV – Visible Spectrophotometer) เพื่อสร้างกราฟมาตรฐาน