20
ประโยชน
ของหน
วย CPM คื
อ สามารถใช
เปรี
ยบเที
ยบกั
บคู
แข
งได
ดี
กว
ายอดรวมของงบ
โฆษณา เป
นต
นว
าบริ
ษั
ท ก ใช
งบโฆษณา 100 ล
านบาท ส
วนบริ
ษั
ท ข ใช
งบ 70 ล
านบาทไม
ได
หมายความว
าบริ
ษั
ท ก จะได
เปรี
ยบทางการตลาดเสมอไป เพราะบริ
ษั
ท ก อาจจะวางแผนสื่
อ
โฆษณาไม
ดี
พอ เช
น ใช
สื่
อบางสื่
อที่
ไม
ตรงกั
บกลุ
มเป
าหมายก็
ได
แต
ถ
านํ
ายอดเงิ
นโฆษณามา
คํ
านวณหา CPM แล
วนํ
ามาเปรี
ยบเที
ยบกั
นจะเห็
นถึ
งประสิ
ทธิ
ภาพได
ชั
ดเจนขึ้
น ในกรณี
บริ
ษั
ท
ข แม
ว
ายอดเงิ
นโฆษณาอาจต่ํ
ากว
าถึ
ง 30 ล
าน แต
เนื่
องจากวางแผนสื
่
อโฆษณาเข
าเป
าหรื
อตรง
กลุ
มเป
าหมายพอดี
ค
า CPM จะต่ํ
ากว
าบริ
ษั
ท ก เป
นต
น (CPM ยิ่
งต่ํ
ายิ่
งมี
ประสิ
ทธิ
ภาพ)
สิ่
งหนึ่
งซึ่
งผู
บริ
หารการตลาดพึ
งระวั
งขณะวิ
เคราะห
CPM เพราะบางบริ
ษั
ทค
า CPM
อาจจะสู
งกว
าปกติ
เพราะสาเหตุ
บางประการ เช
น ใช
หนั
งโฆษณายาว 3 นาที
แน
นอนค
าสื่
อ
โฆษณาจะสู
งกว
าถึ
ง 6 เท
าตั
ว ถ
าเปรี
ยบเที
ยบกั
บสิ
นค
าที่
ใช
หนั
งโฆษณายาว 30 วิ
นาที
การที่
บริ
ษั
ทที่
ใช
หนั
งโฆษณายาวย
อมที่
จะให
ค
า CPM สู
งเพราะเชื่
อว
าหนั
งโฆษณา 3 นาที
สามารถ
สร
าง Impact ในหมู
กลุ
มเป
าหมายได
ดี
กว
าหนั
ง 30 วิ
นาที
คื
อ ยอมจ
ายมากเพื่
อหวั
งจะดึ
งดู
ดหรื
อ
สร
างความประทั
บใจให
กั
บลู
กค
ามากกว
า
ข. การรั
บรู
ของผู
บริ
โภคต
อโฆษณา (Advertising Awareness)
การวั
ดค
าการรั
บรู
ของผู
บริ
โภคที่
มี
ต
อโฆษณาเป
นอี
กอั
นหนึ่
งที่
ใช
วั
ดหรื
อควบคุ
มประสิ
ทธิ
ภาพของโฆษณา การรั
บรู
นี้
คิ
ดเป
นเปอร
เซ็
นต
ของกลุ
มเป
าหมายและข
อมู
ลจะได
มาจากการสํ
ารวจของผู
บริ
โภค Consumer
Survey ซึ่
งบริ
ษั
ทอาจซื้
อข
อมู
ลมาจากบริ
ษั
ทวิ
จั
ยตลาดหรื
อดํ
าเนิ
นการเอง ทั้
งนี้
แล
วแต
นโยบาย
ของแต
ละบริ
ษั
ท ปกติ
สํ
าหรั
บบริ
ษั
ทที่
ใช
โฆษณาเป
นเครื่
องมื
อทางการตลาด ส
วนใหญ
จะมี
เป
าหมายอั
นนี้
รวมไว
ในแผนการตลาดด
วย เช
น เมื่
อนํ
าโฆษณาออกอากาศแล
วเป
าหมายการ
รั
บรู
ของผู
บริ
โภคกลุ
มเป
าหมายที่
มี
ต
อโฆษณาชิ้
นนี้
ควรเป
น 75 เปอร
เซ็
นต
หรื
อ 85 เปอร
เซ็
นต
เมื่
อออกโฆษณาเรี
ยบร
อยแล
วก็
วั
ดผลการรั
บรู
แล
วนํ
ามาเปรี
ยบเที
ยบกั
บตั
วเลขเปอร
เซ็
นต
ที่
ตั้
งเป
าหมายเอาไว
ถ
าต่ํ
ากว
าเป
าหมายก็
ควรหาสาเหตุ
ว
าเป
นเพราะสาเหตุ
ใด เป
นไปได
ว
าการ
วางสื่
อโฆษณาอาจไม
ดี
พอหรื
องานสร
างสรรค
อาจไม
ดี
พอ ผู
บริ
โภคกลุ
มเป
าหมายดู
แล
วไม
สะดุ
ด
ตาสะดุ
ดใจเลยจํ
าไม
ได
เป
นต
น
ค. ทั
ศนคติ
ของผู
บริ
โภคต
อสิ
นค
า (Attitudes Toward Product)
นอกจากการรั
บรู
เรื่
องสิ
นค
าจากโฆษณาแล
ว ผู
บริ
หารการตลาดควรดู
ด
วยว
าเมื่
อเห็
นโฆษณาแล
ว โฆษณาสร
าง
ความรู
สึ
กอย
างไรให
กั
บผู
บริ
โภค หลั
งจากเห็
นโฆษณาแล
วผู
บริ
โภคมี
ความรู
สึ
กอย
างเดี
ยวกั
บกั
บ
เป
าหมายที่
เราตั้
งไว
หรื
อไม
ในการวางแผนโฆษณานั
กการตลาดจํ
าเป
นต
องตั
ดสิ
นใจเลื
อก
สาระสํ
าคั
ญหลั
ก (Key Message) ที่
จะบอกผู
บริ
โภคโดยสื่
อผ
านทางโฆษณาและ Key Message
อั
นนี้
เองจะเป
นสิ่
งที่
ใช
เปรี
ยบเที
ยบกั
บทั
ศนคติ
จริ
งๆ ที่
เกิ
ดขึ้
นกั
บผู
บริ
โภคหลั
งจากเห็
นโฆษณา
แล
ว ถ
าทั
ศนคติ
ที่
ออกมาตรงกั
บ Key Message ที่
ตั้
งเป
าไว
ก็
แสดงว
าการโฆษณามี
ประสิ
ทธิ
ภาพ