เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 901

สิ่
งนั
น ในที่
สุ
ดจะกลายเป็
น ความคิ
ด อุ
ดมคติ
ซึ
งจะทาหน้
าที่
ควบคุ
มพฤติ
กรรม ประกอบด้
วยขั
นรั
บรู
ขั
นตอบสนอง
ขั
นเห็
นคุ
ณค่
า ขั
นจั
ดระบบ ขั
นเกิ
ดกิ
จนิ
สั
ย ซึ
งสอดคล้
องกั
บ ทฤษฎี
การกระจ่
างค่
านิ
ยมที่
เสนอโดย แรธ ฮาร์
มิ
นและ
ไซมอน (จิ
ตรา ใจทั
ศน์
กุ
ล.2546. อ้
างอิ
งจาก Raths, Harmin and Simon.1966) ซึ
งจิ
ตรา ใจทั
ศน์
กุ
ลได้
นามาปรั
บใช้
ใน
การเรี
ยนการสอนโดยได้
ทาการวิ
จั
ยเรื่
องกระบวนการสร้
า งค่
านิ
ยมเรื่
องสั
มมาวาจาเพื่
อพั
ฒนาพฤติ
กรรมการใช้
วาจาที่
เหมาะสม ของนั
กเรี
ยนชั
นมั
ธยมศึ
กษาปี
ที่
6 โรงเรี
ยนรั
ตนราษฎร์
บารุ
ง จั
งหวั
ดราชบุ
รี
พบว่
า ค่
าเฉลี่
ยของคะแนน
พฤติ
กรรมด้
านการไม่
พู
ดเท็
จหลั
งเรี
ยนสู
งกว่
าก่
อนเรี
ยนมากกว่
าการพั
ฒนาพฤติ
กรรมด้
านอื่
2. การเปรี
ยบเ ที
ยบคุ
ณลั
กษณะที่
พึ
งประสงค์
ของนั
กเรี
ยนก่
อนและหลั
งการใช้
ชุ
ดกิ
จกรรมแนะแนว เพื
เสริ
มสร้
างคุ
ณลั
กษณะที่
พึ
งประสงค์
พบว่
า หลั
งการใช้
ชุ
ดกิ
จกรรมแนะแนวเพื่
อเสริ
มสร้
างคุ
ณลั
กษณะที่
พึ
งประสงค์
นั
กเรี
ยนระดั
บชั
นมั
ธยมศึ
กษาปี
ที่
1 มี
คุ
ณลั
กษณะ ความรั
บผิ
ดชอบ ความรั
กและเห็
น คุ
ณค่
าในตนเอง ความมี
ระเบี
ยบ
วิ
นั
ย ความเป็
นประชาธิ
ปไตย ความรั
กชาติ
ศาสน์
กษั
ตริ
ย์
ความประหยั
ด ความสามั
คคี
ความอดทด อดกลั
น ความ
เสี
ยสละ และความอุ
ตสาหะ สู
งกว่
าก่
อนใช้
ชุ
ดกิ
จกรรม ฯ อย่
างมี
นั
ยสาคั
ญทางสถิ
ติ
ที่
ระดั
บ .001 แต่
คุ
ณลั
กษณะความ
ใฝ่
เรี
ยนใฝ่
รู
ก่
อนและหลั
งการร่
วมกิ
จกรรมแตกต่
างกั
นอย่
างไม่
มี
นั
ยสาคั
ญทางสถิ
ติ
สาหรั
บนั
กเรี
ยนระดั
บชั
นมั
ธยมศึ
กษาปี
ที่
4 พบว่
าหลั
งการใช้
ชุ
ดกิ
จกรรมแนะแนวเพื่
อเสริ
มสร้
างคุ
ณลั
กษณะ
ที่
พึ
งประสงค์
มี
คุ
ณลั
กษณะ ความรั
บผิ
ดชอบ ความมี
ระเบี
ยบวิ
นั
ย ความสามั
คคี
ความเสี
ยสละ ความใฝ่
รู
ใ ฝ่
เรี
ยน ความ
รั
กและเห็
นคุ
ณค่
าในตนเอง ความประหยั
ด ความรั
กชาติ
ศาสน์
กษั
ตริ
ย์
ความเป็
นประชาธิ
ปไตย สู
งกว่
าก่
อนใช้
ชุ
กิ
จกรรม ฯ อย่
างมี
นั
ยสาคั
ญทางสถิ
ติ
ที่
ระดั
บ .001 และคุ
ณลั
กษณะด้
าน ความอุ
ตสาหะ ความอดทนอดกลั
น สู
งกว่
าก่
อน
ใช้
ชุ
ดกิ
จกรรมฯ อย่
างมี
นั
ยสาคั
ญทางสถิ
ติ
ที่
ระดั
บ .05 ส่
วน คุ
ณลั
กษณะด้
าน ความซื่
อสั
ตย์
ความมี
มารยาท ก่
อนและ
หลั
งการร่
วมกิ
จกรรมแตกต่
า งกั
นอย่
างไม่
มี
นั
ยสาคั
ญทางสถิ
ติ
ซึ
งไม่
สอดคล้
องกั
บการพั
ฒนานวั
ตกรรมเพื่
อพั
ฒนา
คุ
ณลั
กษณะที่
พึ
งประสงค์
สาหรั
บการพั
ฒนาที่
ยั่
งยื
น ด้
านความซื่
อสั
ตย์
ชั
นมั
ธยมศึ
กษาปี
ที่
5 และชั
นมั
ธยมศึ
กษาปี
ที่
6
ของนั
กเรี
ยนโรงเรี
ยนกาแพงวิ
ทยา จั
งหวั
ดสตู
ล ที่
มี
คุ
ณธรรมด้
านความซื่
อสั
ตย์
หลั
งใช้
แผนการจั
ดการเรี
ยนรู
แต่
ละสาระ
การเรี
ยนรู
สู
งกว่
าก่
อนการใช้
อย่
างมี
นั
ยสาคั
ญทางสถิ
ติ
ที่
ระดั
บ . 001 และการวิ
จั
ยผลการจั
ดกิ
จกรรมการเรี
ยนรู
แบบบู
รณา
การโดยใช้
สื่
อประสมเพื่
อพั
ฒนาคุ
ณลั
กษณะที่
พึ
งประสงค์
ด้
านความรั
บผิ
ดชอบ ทั
กษะการทางานร่
วมกั
บผู
อื่
น และความ
สนใจใฝ่
รู
ของนั
กเรี
ยนช่
วงชั
นที่
1-3 โรงเรี
ยนเมื
องปั
ตตานี
ปรากฏว่
าโดยภาพรวมจากการทดสอบหลั
งจากการใช้
แผนการจั
ดการเรี
ยนรู
แบบบู
รณาการโดยใช้
สื่
อประสมสู
งกว่
าก่
อน การใช้
อย่
างมี
นั
ยสาคั
ญทางสถิ
ติ
ที่
ระดั
บ .001 และการ
วิ
จั
ยการพั
ฒนาคุ
ณลั
กษณะที่
พึ
งประสงค์
แบบยั่
งยื
นด้
านค่
านิ
ยมความเป็
นไทย ( จิ
ตอาสา ความรั
บผิ
ดชอบ ความพอเพี
ยง
ภู
มิ
คุ
มกั
น มารยาททางสั
งคมและรั
กสั
นติ
) หลั
งการ ใช้
กระบวนการสร้
างค่
านิ
ยมเชิ
งบู
รณาการ
กั
บนั
กเรี
ยนชั
มั
ธยมศึ
กษาปี
ที่
2 3 5 และ 6 ของโรงเรี
ยนป่
าพะยอมพิ
ทยาคม จั
งหวั
ดพั
ทลุ
ง สู
งกว่
าก่
อนการใช้
อย่
างมี
นั
ยสาคั
ญทาง
สถิ
ติ
ที่
ระดั
บ .001 ( สุ
ริ
ยา เหมตะศิ
ลป . 2550 ) ทั
งนี
บางคุ
ณลั
กษณะที่
ไม่
มี
ความแตกต่
างกั
นระหว่
างก่
อนและหลั
งการ
ใช้
ชุ
ดกิ
จกรรม อาจเป็
น เพราะการเสริ
มสร้
างคุ
ณลั
กษณะที่
พึ
งประสงค์
ขึ
นอยู
กั
บคุ
ณลั
กษณะของผู
เรี
ยน การอบรมเลี
ยงดู
ระยะเวลาในการจั
ดกิ
จกรรม แรงจู
งใจในการเรี
ยน ( วั
ฒนา พาผล , 2551 ) และพบว่
า การเลี
ยงดู
แบบประชาธิ
ปไตย
ส่
งผลต่
อการให้
เหตุ
ผลเชิ
งจริ
ยธรรม ด้
านความซื่
อสั
ตย์
( สมาพร ภั
ทรพงศ์
กิ
จ , 2551 ) อี
กทั
งการเสริ
มสร้
าง
คุ
ณลั
กษณะที่
พึ
งประสงค์
ขึ
นอยู
กั
บอาชี
พของบิ
ดา มารดา ด้
วย ( ศุ
ภวดี
บุ
ญญวงศ์
)
3. ผลการประเมิ
นความพึ
งพอใจในการร่
วมกิ
จกรรม พบว่
า นั
กเรี
ยนมี
ความพึ
งพอใจในการร
่่
วมกิ
จกรรม
ในระดั
บมากทุ
กรายการ นั่
นคื
อสามารถตอบสนองตามทฤษฎี
ความพึ
งพอใจ ซึ
งเห็
นว่
าแรงจู
งใจจะเป็
นตั
วสร้
างความพึ
พอใจ ทฤษฎี
หนึ
งที่
กล่
าวถึ
งมาก คื
อ ทฤษฎี
ลาดั
บขั
นของความต้
องการของมาสโลว์
(Maslow’s Theory of Hierachy of
1...,891,892,893,894,895,896,897,898,899,900 902,903,904,905,906,907,908,909,910,911,...1102
Powered by FlippingBook