เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 904

2
บทนา
สถิ
ติ
ของกรมอนามั
ย กระทรวงสาธารณสุ
ข (2551) พบว่
าเด็
กวั
ยแรกเกิ
ดในปี
พ.ศ. 2550 ของประเทศไทยมี
ประมาณ 458,300 คน ในปี
พ.ศ. 2546 เด็
กปฐมวั
ย (แรกเกิ
ดถึ
ง 5 ปี
) มี
พั
ฒนาการปกติ
ร้
อยละ 79.9 ซึ
งต
ากว่
าเป้
าหมายคื
ร้
อยละ 90 สั
นทยากร อรรคฮาต แลคณะ (2550) สารวจพั
ฒนาการเด็
กของศู
นย์
อนามั
ยที่
6 ในปี
พ.ศ. 2548 พบว่
าภาพรวม
เด็
กปฐมวั
ยมี
พั
ฒนาการสงสั
ยล่
าช้
าร้
อยละ 71.5 สิ
นี
นาฎ จิ
ตต์
ภั
กดี
(2541) พบว่
า เด็
กอายุ
0-5 ปี
จานวน 384 คนที่
มารั
บริ
การในคลิ
นิ
กเด็
กดี
ของโรงพยาบาลชุ
มชน 10 แห่
งในจั
งหวั
ดเชี
ยงใหม่
ไม่
ผ่
านเกณฑ์
การประเมิ
นพั
ฒนาการรายด้
าน
ถึ
งร้
อยละ 36.5 สาเหตุ
ส่
วนหนึ
งเนื่
องจากผู
ปกครองมี
ระดั
บการศึ
กษาชั
นประถม ซึ
งอาจสั
นนิ
ษฐานได้
ว่
าขาดความรู
ความ
เข้
าใจและไม่
ตระหนั
กถึ
งความสาคั
ญในการส่
งเสริ
มพั
ฒนาการเด็
ผลการวิ
จั
ยจานวนหนึ
งพบว่
าสิ่
งสาคั
ญการส่
งเสริ
มให้
เด็
กมี
พั
ฒนาการที่
ดี
สมวั
ยคื
อต้
องส่
งเสริ
มครอบครั
วและ
บุ
คคลที่
เกี่
ยวข้
องกั
บเด็
กให้
มี
ความรู
และมี
พฤติ
กรรมการส่
งเสริ
มพั
ฒนาการเด็
กที่
ถู
กต้
องเหมาะสม (จิ
รนั
นท์
ไข่
แก้
ว,
2545; ปิ
ยพรรณ ตระกู
ลทิ
พย์
, 2547) โดยเฉพาะในเด็
กอายุ
0-5 ปี
เป็
นช่
วงที่
สมองพั
ฒนาอย่
างรวดเร็
ว (ธนพร
โกมะหะวงศ์
, 2544; นิ
ตยา คชภั
กดี
, 2543)
จากรายงานสรุ
ปผลการดาเนิ
นงานปี
พ.ศ. 2549 ของสถานี
อนามั
ยแม่
แฝกใหม่
อาเภอสั
นทราย จั
งหวั
ดเชี
ยงใหม่
พบว่
าผู
ปกครองเด็
กอายุ
0-5 ปี
ขาดความรู
ความเข้
าใจในการส่
งเสริ
มพั
ฒนาการเด็
กที่
อาจทาให้
เกิ
ดปั
ญหาต่
อพั
ฒนาการ
เด็
ก อี
กทั
งปั
จจุ
บั
นบิ
ดามารดาส่
วนใหญ่
ต้
องออกไปประกอบอาชี
พนอกบ้
านทาให้
มี
เวลาดู
แลใกล้
ชิ
ดบุ
ตรน้
อยลงและขาด
ญาติ
ผู
ใหญ่
เป็
นที่
พึ
งในการเลี
ยงดู
เด็
ก เด็
กร้
อยละ 93.36 (239 คน) ของตาบลแม่
แฝกใหม่
จึ
งถู
กนาไปฝากเลี
ยงที่
ศู
นย์
พั
ฒนาเด็
กเล็
กที่
มี
อยู่
2 แห่
ง ศู
นย์
พั
ฒนาเด็
กเล็
กแพะแม่
แฝกใหม่
มี
เด็
กประมาณ 180 คน ซึ
งศู
นย์
นี
ไม่
เคยจั
ดการอบรมให้
ความรู
แก่
ผู
ปกครองเกี่
ยวกั
บการดู
แลเด็
กอย่
างเป็
นรู
ปธรรม อี
กทั
งเด็
กอายุ
ากว่
า 5 ปี
ที่
ได้
รั
บการตรวจคั
ดกรองพั
ฒนาการ
โดยใช้
แบบสั
งเกตอย่
างง่
ายโดยผู
ดู
แลเด็
กในศู
นย์
ที่
ไม่
ต้
องใช้
อุ
ปกรณ์
และไม่
ได้
แยกเป็
นการตรวจคั
ดกรองพั
ฒนาการราย
ด้
าน อาจมี
ความละเอี
ยดไม่
เพี
ยงพอที่
จะตรวจคั
ดกรองเด็
กที่
มี
ปั
ญหาพั
ฒนาการล่
าช้
าได้
ยิ่
งกว่
านั
นผู
ดู
แลเด็
กในศู
นย์
นี
ส่
วนใหญ่
มี
ระดั
บการศึ
กษาแค่
ชั
นมั
ธยมศึ
กษาตอนปลายเท่
านั
น และผู
ปกครองเด็
กในศู
นย์
นี
ส่
วนใหญ่
มี
ระดั
บการศึ
กษา
ชั
นประถม จากข้
อมู
ลข้
างต้
นสะท้
อนถึ
งปั
ญหาที่
จะทาให้
เด็
กในศู
นย์
นี
มี
พั
ฒนาการล่
าช้
า ถ้
าเด็
กมี
พั
ฒนาการล่
าช้
าแม้
เพี
ยง
ด้
านเดี
ยวจะมี
ผลกระทบต่
อพั
ฒนาการด้
านอื่
นๆด้
วย ทาให้
เด็
กไม่
สามารถดู
แลตั
วเองได้
ตามวั
ยและเป็
นภาระของ
ครอบครั
วอย่
างต่
อเนื่
อง แต่
เด็
กที่
มี
พั
ฒนาการล่
าช้
าถ้
าได้
รั
บการส่
งเสริ
มพั
ฒนาการภายในช่
วง 5 ปี
แรกเด็
กจะมี
พั
ฒนาการ
ดี
ขึ
นกว่
าเดิ
มได้
(สิ
นี
นาฎ จิ
ตต์
ภั
กดี
, 2541)
ผู
วิ
จั
ยตระหนั
กถึ
งความสาคั
ญและความจาเป็
นเร่
งด่
วนที่
ต้
องมี
การอบรมเชิ
งรุ
กแก่
ผู
ปกครองเด็
กในศู
นย์
นี
ให้
มี
ความรู
ความเข้
าใจเพี
ยงพอที่
จะนาไปสู่
การปฏิ
บั
ติ
ปรั
บเปลี่
ยนพฤติ
กรรมการส่
งเสริ
มพั
ฒนาการเด็
กปฐมวั
ยให้
เป็
นไปตาม
วั
ยอย่
างถู
กต้
องเหมาะสมและต่
อเนื่
อง
วั
ตถุ
ประสงค์
ของการวิ
จั
1. เปรี
ยบเที
ยบความรู
และพฤติ
กรรมการส่
งเสริ
มพั
ฒนาการเด็
กปฐมวั
ยระหว่
างผู
ปกครองกลุ่
มที่
ได้
รั
โปรแกรมการสอนและกลุ่
มที่
ไม่
ได้
รั
บโปรแกรมการสอน ก่
อนการทดลอง
2. เปรี
ยบเที
ยบความรู
และพฤติ
กรรมการส่
งเสริ
มพั
ฒนาการเด็
กปฐมวั
ยระหว่
างผู
ปกครองกลุ่
มที่
ได้
รั
โปรแกรมการสอนและกลุ่
มที่
ไม่
ได้
รั
บโปรแกรมการสอน หลั
งการทดลอง
3. เปรี
ยบเที
ยบความรู
และพฤติ
กรรมการส่
งเสริ
มพั
ฒนาการเด็
กปฐมวั
ยของผู
ปกครองกลุ่
มที่
ได้
รั
บโปรแกรม
การสอน ก่
อนและหลั
งการทดลอง
1...,894,895,896,897,898,899,900,901,902,903 905,906,907,908,909,910,911,912,913,914,...1102
Powered by FlippingBook