เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 924

6
จากตารางที่
4 พบว่
าคะแนนนั
กเรี
ยนของนั
กเรี
ยนทั้
งสองกลุ่
มไม่
มี
ความแตกต่
างกั
น เนื่
องมาจากนั
กเรี
ยนทั้
งสอง
กลุ่
มเป็
นนั
กเรี
ยนโครงการ SMA ซึ่
งเป็
นนั
กเรี
ยนที่
มี
ความตั้
งใจเรี
ยนสู
งและสามารถเรี
ยนรู้
ได้
ดี
ทาให้
นั
กเรี
ยนกลุ่
มควบคุ
มมี
ผลสั
มฤทธิ์
ทางการเรี
ยนไม่
แตกต่
างกั
ตารางที่
5
ผลการเปรี
ยบเที
ยบคะแนนผลสั
มฤทธิ์
ทางการเรี
ยนหลั
งเรี
ยน เมื่
อเวลาผ่
านไปแล้
ว 2 เดื
อน ของนั
กเรี
ยนกลุ่
ตั
วอย่
างและกลุ่
มควบคุ
รู
ปแบบการจั
ดการ
เรี
ยนการสอน
N
คะแนนเต็
คะแนนผลสั
มฤทธิ์
ทางการ
เรี
ยนเรื่
อง ความตึ
งผิ
คะแนนผลสั
มฤทธิ์
ทางการ
เรี
ยนเรื่
อง ความหนื
คะแนนผลสั
มฤทธิ์
ทางการ
เรี
ยนเรื่
อง
หลั
กของแบร์
นุ
ลลี
X
S.D.
X
S.D.
X
S.D.
กลุ่
มตั
วอย่
าง
(ใช้
ชุ
ดปฏิ
บั
ติ
การ)
40
10
8.60
0.8
7.83
1.0
8.05
1.1
กลุ่
มควบคุ
(แบบปกติ
)
42
10
7.48
1.2
7.10
1.2
6.93
1.4
df = 80
t-test = -1.558
NS
t-test = 3.251
**
t-test = 4.835
**
จากตารางที่
5 พบว่
านั
กเรี
ยนในกลุ่
มควบคุ
มมี
คะแนนผลสั
มฤทธิ์
เฉลี่
ยลดลงทั้
ง 3 เรื่
อง และให้
คะแนนผลสั
มฤทธิ์
ที่
แตกต่
างกั
บนั
กเรี
ยนกลุ่
มตั
วอย่
างที่
ระดั
บนั
ยสาคั
ญ 0.01 ในเรื่
อง ความหนื
ด และหลั
กของแบร์
นุ
ลลี
แสดงว่
านั
กเรี
ยนกลุ่
ตั
วอย่
างสามารถมี
ความรู้
ในเรื่
อง ความหนื
ด และหลั
กของแบร์
นุ
ลลี
ได้
ยาวนานกว่
านั
กเรี
ยนกลุ่
มควบคุ
ตารางที่
6
ความก้
าวหน้
าทางการเรี
ยนโดยใช้
วิ
ธี
average normalized gain , <g>
เรื่
อง
Pre - test
Post - test
<g>
ความตึ
งผิ
3.23
8.53
0.78
ความหนื
2.42
7.90
0.72
หลั
กของแบร์
นุ
ลลี
2.02
8.52
0.82
จากตารางที่
6 พบว่
า ค่
า <g> มากกว่
า 0.7 ทุ
กชุ
ดปฏิ
บั
ติ
การแสดงว่
านั
กเรี
ยนมี
ความก้
าวหน้
าทางการเรี
ยนอยู่
ใน
ระดั
บสู
สาหรั
บคะแนนทั
กษะบู
รณาการทาการวิ
เคราะห์
โดยใช้
ค่
า <g> แยกเป็
นทั
กษะขั้
นบู
รณาการ 5 ทั
กษะโดยทาการ
วิ
เคราะห์
คะแนนรายบุ
คคลของนั
กเรี
ยนในกลุ่
มตั
วอย่
างแล้
วนามาคานวณเป็
นร้
อยละของจานวนนั
กเรี
ยนในแต่
กลุ่
ม แบ่
งเป็
กลุ่
มสู
ง กลุ่
มระดั
บปานกลาง และกลุ่
มต่
าได้
ผลดั
งตารางที่
4.8
1...,914,915,916,917,918,919,920,921,922,923 925,926,927,928,929,930,931,932,933,934,...1102
Powered by FlippingBook